ข้อควรระวังในการให้อาหารสายยางข้อควรระวังในการให้อาหารทางสายยางมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยและสุขภาวะของผู้ป่วยค่ะ การดูแลที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
นี่คือข้อควรระวังหลักที่ผู้ดูแลทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด:
🛑 ข้อควรระวังในการให้อาหารทางสายยาง
1. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (อันตรายที่สุด)
ข้อควรระวัง เหตุผลและวิธีปฏิบัติ
การจัดท่าผู้ป่วย ต้องให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าศีรษะสูง 30–45 องศา (Semi-Fowler’s) ตลอดเวลา ที่ให้อาหาร และคงท่านั้นไว้ อย่างน้อย 30–60 นาที หลังให้อาหารเสร็จ เหตุผล: ป้องกันอาหารไหลย้อนกลับและสำลักเข้าปอด (Aspiration)
การตรวจสอบตำแหน่งสาย ต้องตรวจสอบก่อนให้อาหารทุกครั้ง (ตามวิธีที่พยาบาลสอน เช่น ตรวจสอบรอยมาร์คความยาวของสาย) เหตุผล: ป้องกันการให้อาหารผิดตำแหน่ง (เช่น ให้เข้าปอด) หากสายหลุดหรือเคลื่อน ให้หยุดให้อาหารทันที
การควบคุมอัตราการไหล ต้องให้อาหารไหลลงไปช้า ๆ ตามแรงโน้มถ่วง (ใช้เวลา 15–20 นาทีต่อมื้อ) ห้ามดันลูกสูบ โดยเด็ดขาด เหตุผล: การให้เร็วเกินไปจะทำให้ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน และเสี่ยงต่อท้องเสีย
การวัดอาหารค้าง (GRV) ต้องวัดปริมาณอาหารค้าง ก่อนเริ่มให้อาหารมื้อถัดไป (สำหรับสายที่เข้ากระเพาะอาหาร) เหตุผล: หากมีอาหารค้างมากเกินไป แสดงว่ากระเพาะอาหารย่อยไม่ทัน ควรหยุดให้อาหารและปรึกษาแพทย์
2. ความเสี่ยงด้านความสะอาดและการติดเชื้อ
ข้อควรระวัง เหตุผลและวิธีปฏิบัติ
สุขอนามัยของมือ ล้างมือให้สะอาด ทั้งก่อนและหลังการเตรียมอาหารและการสัมผัสอุปกรณ์/ผู้ป่วย
ความสะอาดของอาหาร ห้ามใช้อาหารที่เปิดทิ้งไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิห้อง และควรเก็บอาหารที่เหลือไว้ในตู้เย็น (ไม่เกิน 24 ชั่วโมง)
ความสะอาดของอุปกรณ์ ต้องล้างกระบอกและภาชนะให้สะอาดทันทีหลังใช้ และผึ่งให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
อุณหภูมิของอาหาร ต้องให้ที่อุณหภูมิห้อง ห้ามใช้เย็นจัดหรือร้อนจัด
3. ปัญหาที่เกี่ยวกับสายยางและการอุดตัน
ข้อควรระวัง เหตุผลและวิธีปฏิบัติ
การล้างสาย (Flushing) ต้องฉีดน้ำสะอาดตามสายยางทุกครั้ง ทั้งก่อนเริ่มให้อาหาร/ยา และหลังให้อาหาร/ยาเสร็จ เหตุผล: ป้องกันเศษอาหารและยาติดค้างจนทำให้สายยางอุดตัน
การให้ยา ห้ามบดยาแล้วผสมรวมกัน ควรบดยาแต่ละชนิดแยกกัน ผสมกับน้ำสะอาดเล็กน้อย และให้ยาแต่ละชนิดทีละครั้ง จากนั้นล้างสายด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งระหว่างให้ยาแต่ละชนิด
การเตรียมอาหารปั่น ต้องปั่นให้ละเอียดและกรองด้วยผ้าขาวบางเสมอ เหตุผล: กากใยหรือชิ้นส่วนที่ไม่ละเอียดจะทำให้สายอุดตัน
4. การดูแลเฉพาะจุด (สำหรับสาย PEG/G-Tube)
ดูแลแผลรอบรูเปิด: ต้องทำความสะอาดผิวหนังบริเวณรอบสายยางทางหน้าท้องด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ ทุกวัน และ ซับให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการติดเชื้อและผิวหนังอักเสบ