ผู้เขียน หัวข้อ: motor show 2024: ขับรถ EV อย่างไรถึงจะปลอดภัย? กับ Volvo Electric Vehicle Drivin  (อ่าน 55 ครั้ง)

siritidaphon

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 81
  • รับจ้างโพส ,รับโพสเว็บ, โปรโมทเว็บ ราคาประหยัด
    • ดูรายละเอียด
motor show 2024: ขับรถ EV อย่างไรถึงจะปลอดภัย? กับ Volvo Electric Vehicle Driving Academy

Volvo Electric Vehicle Driving Academy แบบฝึกหัดการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ปลอดภัย พร้อมตอบข้อสงสัยที่มือใหม่ผู้ใช้รถไฟฟ้าควรรู้ เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทะเบียนแล้ว มาดูกันว่าการอบรมครั้งนี้จะมีอะไรกันบ้าง
 
ทุกวันนี้ รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงผู้คนมากขึ้น หลายคนเลือกใช้รถประเภทนี้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องด้วยความต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมของค่ายรถต่าง ๆ รวมถึงมาตรการรัฐที่สนับสนุน
 
สิ่งที่ควรรู้ไว้คือรถยนต์ไฟฟ้า แตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปอยู่หลายประการ ทั้งระบบขับเคลื่อน น้ำหนักรถ โครงสร้างการถ่ายเทน้ำหนัก ส่งผลให้การขับขี่มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงกว่ารถน้ำมัน
 
Volvo หนึ่งในค่ายรถยนต์ที่ต้องการมุ่งทำรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ และต้องการสร้างความเข้าใจในรถยนต์ไฟฟ้าแก่บุคคลทั่วไปให้มากขึ้น
 
จึงเป็นที่มาของกิจกรรม Volvo Electric Vehicle Driving Academy ในปีนี้ ซึ่งเป็นการฝึกอบรมให้บุคคลทั่วไปสามารถควบคุมรถ EV ผ่านการจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจพบได้ในชีวิตประจำวัน ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ ตั้งแต่วันที่ 13-19 ส.ค. นี้
 
ทางเรามีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ จึงนำมาบอกต่อให้แก่ผู้ที่สนใจ มาดูกันว่า กิจกรรมนี้จะพาเราไปรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้นอย่างไรบ้าง
 

บรีฟข้อมูล
 
ก่อนจะขับรถกันเราต้องมีการบรีฟข้อมูลกันก่อน ส่วนนี้จะเป็นการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกียวกับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการตอบคำถามพบบ่อยที่หลายคนสงสัยในรถ EV แบ่งเป็นพาร์ทต่าง ๆ ดังนี้

 
Basic EV Knowledge
 
ส่วนนี้จะเป็นการให้ความรู้เบื้องต้นของรถยนต์ไฟฟ้า โดยจะใช้ข้อมูลจาก Volvo EX30 รถที่ใช้ในกิจกรรมนี้ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลทั้งหัวชาร์จแบบต่าง ๆ, การติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน, มาตรฐานวัดระยะทางขับขี่รูปแบบต่าง ๆ (CLTC/NEDC/WLTP) รวมถึงมีการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายการเดินทางของรถยนต์ไฟฟ้าเทียบรถน้ำมันอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ภายในงานยังตอบข้อสงสัยที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (FAQ) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานรถอีวีหรือผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
 

สเปค Volvo EX30
 
กิจกรรมครั้งนี้จะใช้ Volvo EX30 ทดสอบภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งหมด ทั้งในรุ่นขับหลังมอเตอร์เดี่ยว Single Motor Ultra และรุ่นขับสี่มอเตอร์คู่ Twin Motor Performance มีสเปค ดังนี้
 
มอเตอร์เดี่ยว Single Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 69 kWh งไกลสุด 540 กม. (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที

มอเตอร์คู่ Twin Motor ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดที่ 428 แรงม้า แรงบิด 543 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 69 kWh วิ่งไกลสุด 520 กม. (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.6 วินาที
 
สำหรับการชาร์จ ทั้งสองรุ่นใช้หัวชาร์จ CCS Type 2 สามารถชาร์จ AC ที่ความเร็วสูงสุด 11 kW จาก 0-100% ได้เร็วสุด 8 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จเร็ว DC ที่ความเร็วสูงสุด 175 kW ชาร์จแบตเตอรี่ 10-80% ได้ภายใน 28 นาที
 
อย่างไรก็ตาม นอกจากความรู้พื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว สิ่งที่ควรทำให้ถูกต้องคือ ท่าทางการขับขี่รถยนต์ โดยจะต้องปรับให้พอดี สามารถควบคุมแป้นเบรค/คันเร่ง พวงมาลัย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นส่วนของท่านั่งขับขี่ การปรับความสูง/ต่ำพวงมาลัย ไปจนถึงการจับพวงมาลัย
 
Volvo EX30 ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันผู้โดยสารจากอุบัติเหตุมากมาย ซึ่งเราจะได้เรียนรู้ว่าระบบช่วยเหลือเหล่านี้ทำงานอย่างไรในการอบรมครั้งนี้ด้วย

 
ระยะเบรค Emergency Braking
 
การอบรมครั้งนี้ยังกล่าวถึงการเบรคฉุกเฉิน (Emergency Braking) โดยปกติแล้ว คนทั่วไปจะมีระยะเวลาตอบสนองเท่า ๆ กันในทุกความเร็ว ดังนั้น เมื่อเราใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าเราจะต้องเผื่อระยะเบรคฉุกเฉินให้มากขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักรถเฉลี่ยมากกว่ารถน้ำมันก็จะต้องเผื่อระยะให้มากขึ้น 
 

Physical of Driving
 
หนึ่งในสิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นสำหรับการขับขี่รถยนต์คือ Physical of Driving ซึ่งเป็นหลักการของแรงที่เกิดขึ้นเมื่อขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เมื่อเร่งความเร็ว EX30 รุ่น Twin Motor จะมีแรงขับเคลื่อนที่ล้อหลังมากกว่าด้านหน้า และน้ำหนักจะถ่ายเทไปด้านหลัง, การเบรคที่น้ำหนักจะถ่ายเทมาที่ด้านหน้า รวมถึงการเลี้ยวที่หากเลี้ยวซ้ายน้ำหนักจะถ่ายเทไปด้านขวา หากเลี้ยวขวาก็จะกลับกัน
 
การอบรมครั้งนี้ Volvo EX30 ได้รับการสนับสนุนด้วยยาง Goodyear EfficientGrip PERFORMANCE SUV มีโครงสร้างยางที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา พร้อมเทคโนโลยี QuietTred, FlexContact และ Advanced Compounding ให้สมรรถนะที่ดี แต่ยังคงความนุ่มเงียบสมเป็น SUV พรีเมียม
 

Station อบรมขับขี่รถ EV ให้ปลอดภัย ทั้ง 5 ฐาน
 
สำหรับ Station อบรมการขับขี่มีทั้งหมด 5 ฐาน เรียงตามที่ผู้เขียนเข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้
 
Group Warm Up
 
ในฐานแรกเป็นการทำความรู้จักกับรถก่อน เริ่มด้วยการเหยียบคันเร่งจนมิดและเบรคกะทันหันในจุดที่กำหนด เพื่อให้คุ้นเคยกับน้ำหนักการเบรค ต่อมาจะเป็นการสลาลอมที่ทำให้เราคุ้นเคยกับน้ำหนักพวงมาลัยของรถมากขึ้น ที่ความเร็วประมาณ 35-40 กม./ชม.
 
 
Moose Test
 
ต่อมาจะเข้าสู่ฐาน Moose Test เป็นมาตรฐานการทดสอบที่เริ่มต้นขึ้นจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย (บ้านเกิด Volvo) เพื่อทดสอบรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน คล้ายการเปลี่ยนเลนกะทันหัน แต่มีการเปลี่ยนไปและเปลี่ยนกลับมายังเลนเดิม
 
ในฐานนี้จะใช้ EX30 รุ่นขับสี่ Twin Motor Performance ที่ความเร็วต่าง ๆ ตั้งแต่ 50-60++ กม./ชม. จำลองสถานการณ์เหมือนมีกวางมูสที่ยืนขวางเลนรถของเราและต้องเบี่ยงหลบไปยังเลนสวน ขณะเดียวกันก็ต้องกลับเข้าเลนตัวเองเพราะรถสวนมาพอดี
 
สเตชั่นนี้เป็นการฝึกควบคุมพวงมาลัยให้นุ่มนวลมากที่สุด ทำให้รถไม่เสียอาการจนเสียหลักเมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นมา
 
 
Avoiding Obstacles
 
สถานีนี้เป็นการจำลองสถานการณ์หลบสิ่งกีดขวางที่เกิดขึ้นกะทันหัน เช่น ขณะขับต่อหลังรถบรรทุกก็มีของหล่นออกมาจากท้ายรถซึ่งเราจะต้องหักหลบ
 
เราจะต้องใช้ EX30 รุ่นขับหลัง Single Motor เพื่อหักหลบกรวยไปทางซ้าย สลับกับทางขวาที่ความเร็วตั้งแต่ 50-60+ กม./ชม. โดยทางซ้ายจะหักหลบได้ง่ายกว่าทางขวาเล็กน้อยเพราะตอนหักซ้ายกรวยจะอยู่ใกล้ตัวซึ่งเราจะกะระยะได้แม่นยำกว่า

 
Braking And Avoiding
 
สำหรับสเตชันนี้เป็นการเบรคฉุกเฉินที่ต้องหยุดรถให้สนิท เช่น สถานการณ์ที่ป้ายขนาดใหญ่หรือต้นไม้ล้มขวางทาง เริ่มด้วยการเร่งที่ความเร็ว 50-60+ กม./ชม. แล้วเบี่ยงซ้ายตามกรวยพร้อมกดเบรคจนสุด จำลองสถานการณ์ว่าไม่ให้ชนสิ่งกีดขวางด้านหน้า
 
 
Understeer
 
สเตชันสุดท้ายคือการควบคุมรถขณะเข้าโค้งรูปครึ่งวงกลม ในความเร็วตั้งแต่ 40-60+ กม./ชม. เราจะเห็นอาการหน้าดื้อหรือ understeer ของรถที่มากขึ้นตามความเร็ว บนพื้นเปียกที่ทาง Volvo จะราดน้ำไว้ให้ด้วย
 
เริ่มจากความเร็ว 40 กม./ชม. รถยังไม่มีอาการใด ๆ ต่อมาที่ 50 กม./ชม. รถจะมีอาการมากขึ้น เราจะต้องแตะเบรคที่กลางโค้งพร้อมกับมองที่กรวยบริเวณโค้งด้านในและหักเลี้ยวเพิ่มขึ้น สุดท้ายที่ความเร็ว 60 กม./ชม. จะต้องเบรคกะทันหันพร้อมหักพวงมาลัยเพิ่มที่กลางโค้ง เพื่อให้ระบบ ESC ช่วยให้รถกลับเข้าโค้งก่อนจะขับต่อไป


สรุป: มือใหม่หัดใช้ EV ควรเรียนคอร์สนี้
 
Volvo Electric Vehicle Driving Academy คือคอร์สอบรมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่ม ปูพื้นฐานได้ตั้งแต่ความรู้เบื้องต้น ตอบข้อสงสัยที่พบบ่อย รวมถึงสอนการขับขี่เบื้องต้นให้แก่บุคคลทั่วไป
 
หากใครที่สนใจคอร์สรถยนต์ไฟฟ้าที่ครบครันเช่นนี้ สามารถลงทะเบียนกับทาง Volvo Thailand ได้เลย โดยงานมีตั้งแต่วันที่ 13-19 ส.ค. นี้เท่านั้น