แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 33
1
จัดฟันบางนา: ข้อห้ามในการรับประทานอาหาร สำหรับผู้ที่ จัดฟันแบบใส Invisalign

การจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เป็นการรักษาที่นำนวัตกรรมมาใช้ในการวางแผนการรักษา จนถึงการรักษา โดยนวัตกรรมนี้สามารถวางแผนการรักษาด้วยระบบ 3D และผู้เข้ารับการรักษาสามารถดูผลการรักษาล่วงหน้าได้ ข้อดีสำหรับการจัดฟันแบบใส คือสามารถมองเห็นเครื่องมือการจัดฟันได้ยาก ซึ่งจะดูเป็นการจัดฟันที่เป็นธรรมชาติมาก

นอกจากนี้ยังสามารถถอดเครื่องมือออกได้ขณะรับประทานอาหารและการทำความสะอาดฟัน การถอดเครื่องมือออกได้นี่เองเป็นการสะดวกในการรับประทานอาหาร ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign จึงมีความหลากหลายในการรับประทาน สามารถรับประทานอาหารได้ทุกรูปแบบ โดยไม่กระทบต่อเครื่องมือการจัดฟัน

การจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าจะรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย แต่การจัดฟันแบบใส การมีวินัย ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก หากผู้เข้ารับการจัดฟันไม่มีวินัยในการใส่เครื่องมือการจัดฟันที่ทันตแพทย์แนะนำให้ใส่ทุกวันเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 20-22 ชั่วโมง ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อการจัดฟันด้วย

อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส ก็มีพฤติกรรมการรับประทานที่จำกัดในการจัดผันแบบใส นั่นก็คือ หากผู้เข้ารับการจัดฟัน มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารจุกจิก กินขนมหลังจากมื้ออาหาร รวมไปถึงการจิบกาแฟตลอดวัน ถือเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงการมีวินัยในการใส่เครื่องมือ เพราะการรับประทานอาหารผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign จะต้องถอดเครื่องมือออก ก่อนจะรับประทานอาหาร ซึ่งหากมีพฤติกรรมที่กินจุกจิก ก็อาจจะไม่สะดวกมากนัก เพราะต้องคอยถอดเครื่องมือบ่อยๆ

และหากผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign เป็นคอกาแฟที่ชอบจิบกาแฟอยู่ตลอดทั้งวัน ก็เป็นอุปสรรคในการจัดฟันแบบใส เพราะจะต้องคอยถอดเครื่องมือการจัดฟันออก หากจะจิบกาแฟ ซึ่งก็จะไม่สะดวก เพราะถ้าหากใส่เครื่องมือการจัดฟัน ขณะดื่มกาแฟ จะทำให้สีของกาแฟ ติดอยู่ที่เครื่องมือการจัดฟัน ทำให้สีของเครื่องมือเปลี่ยน และเมื่อใส่เครื่องมือก็จะทำให้ดูเหมือนมีสีฟันที่เหลือง ซึ่งก็จะทำให้เสียบุคลิกภาพ ทั้งนี้หากคุณอยากจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign สามารถเข้ารับคำปรึกษาก่อนทำการจัดฟันได้ที่คลีนิค

เพื่อจะได้ทราบถึงรายละเอียดที่ชัดเจนของการจัดฟันแบบใส Invisalign เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการจัดหันมาอย่างยาวนาน

2
หมอออนไลน์: ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ (Hypocalcemia)

ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ หมายถึง ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ (ค่าปกติประมาณ 8.5-10.5 มก./ดล.)

เป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนัก อาจพบได้ทั้งในทารกและผู้ใหญ่

สาเหตุ

1. ในผู้ใหญ่ส่วนมาก มีสาเหตุจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ (เช่น ผู้ป่วยที่เป็นคอพอกเป็นพิษ หรือต่อมไทรอยด์โตมาก) แล้วตัดเอาต่อมพาราไทรอยด์ (ที่อยู่ใกล้กัน) ออกไปด้วย จึงทำให้เกิดภาวะขาดพาราไทรอยด์ (hypoparathyroidism) ต่อมนี้มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนช่วยรักษาระดับของแคลเซียมในเลือดให้อยู่ในสมดุลเมื่อต่อมนี้ทำงานได้น้อย ก็จะทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ ซึ่งอาจแสดงอาการภายหลังผ่าตัดแล้วเป็นปี ๆ ก็ได้ และอาจเป็นชั่วคราวหรือถาวรก็ได้

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากภาวะขาดพาราไทรอยด์โดยไม่ทราบสาเหตุ ภาวะขาดวิตามินดี ภาวะไตวายเรื้อรัง การกินแคลเซียมน้อยหรือขาดอาหาร ลำไส้ดูดซึมธาตุแคลเซียมได้น้อย โรคพิษสุราเรื้อรัง ภาวะโปรตีน (แอลบูมิน) ในเลือดต่ำ ภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ ภาวะฟอสเฟตในเลือดสูง ภาวะโลหิตเป็นพิษ ภาวะเลือดเป็นด่าง (alkalosis ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน) ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน การใช้ยา (เช่น ยาขับปัสสาวะ สเตียรอยด์ ไรแฟมพิซิน เฟนิโทอิน ฟีโนบาร์บิทาล) เป็นต้น

2. ในทารกแรกเกิด ถ้ามีอาการภายใน 3 วันหลังคลอด อาจมีสาเหตุจากทารกคลอดก่อนกำหนดทารกมีภาวะขาดออกซิเจนขณะคลอด มารดาเป็นเบาหวาน หรือมารดามีภาวะต่อมพาราไทรอยด์ทำงานเกิน (ทำให้กดการทำงานของพาราไทรอยด์ในทารก เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำขึ้นในทารก) หรือทารกมีภาวะขาดพาราไทรอยด์โดยกำเนิด

ถ้ามีอาการหลังคลอดเป็นสัปดาห์ขึ้นไป อาจมีสาเหตุจากการให้ทารกกินนมวัวที่มีสารฟอตเฟตสูง ทารกมีภาวะลำไส้ไม่ดูดซึมแคลเซียม หรือเกิดภาวะเลือดเป็นกรดจากโรคอุจจาระร่วง ทารกมีภาวะขาดพาราไทรอยด์โดยกำเนิด ภาวะขาดวิตามินดี (โรคกระดูกอ่อน) หรือภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (hypomagnesemia)

อาการ

ในรายที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำเล็กน้อย อาจไม่มีอาการแสดงให้ปรากฏชัดเจน หรือมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอนง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ มักตรวจพบจากการตรวจเลือด

ผู้ป่วยจะแสดงอาการเมื่อมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำค่อนข้างมาก อาการที่พบได้บ่อย คือ ผู้ป่วยจะมีอาการมือจีบเกร็งทั้ง 2 ข้าง แบบเดียวกับที่พบในผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน

นอกจากนี้อาจเป็นตะคริวที่ขา ใบหน้า หรือปวดบิดในท้อง บางรายอาจมีความรู้สึกชาที่ริมฝีปาก ลิ้น และปลายมือปลายเท้า

ถ้าเป็นรุนแรงอาจมีอาการชัก

ในทารก อาจมีอาการชัก หายใจลำบาก ตัวเขียว บางรายอาจมีอาการอาเจียน (ซึ่งอาจรุนแรงจนเข้าใจผิดว่ามีภาวะกระเพาะลำไส้อุดกั้น)

ภาวะแทรกซ้อน

ถ้ามีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำมาก ๆ อาจทำให้หัวใจวาย กล่องเสียงเกร็งตัวจนหายใจไม่ได้

หากปล่อยไว้เรื้อรัง (เช่น เกิดจากภาวะขาดพาราไทรอยด์ที่ไม่ทราบสาเหตุ ไตวายเรื้อรัง) อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ กระดูกพรุน (ทำให้กระดุกหักง่าย) เป็นต้อกระจก ประสาทตาบวมหรืออักเสบ ความจำเสื่อม บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง ซึมเศร้า ประสาทหลอน

ถ้าหากเป็นตั้งแต่เล็ก ๆ หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ฟันเสีย ร่างกายไม่เจริญเติบโต และปัญญาอ่อนได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจพบมือจีบเกร็งทั้ง 2 ข้าง อาจเป็นตะคริวที่ขา หรือชัก

อาจตรวจพบรีเฟลกซ์ของข้อ (tendon reflex) ไวกว่าปกติ

อาจทำการทดสอบโดยการใช้เครื่องวัดความดันพันรอบแขนด้วยแรงดันที่สูงกว่าความดันโลหิตช่วงบนของผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อที่มือเกร็ง (เรียกว่า "Trousseau sign") หรือใช้นิ้วชี้เคาะที่กระดูกโหนกแก้ม (zygoma bone) กระตุ้นให้กล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก (เรียกว่า "Chvostek’s sign")   

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเจาะเลือดตรวจดูระดับแคลเซียม มีค่าต่ำกว่า 8.5 มก./ดล.ในผู้ใหญ่ (ต่ำกว่า 8 มก./ดล.ในทารกคลอดครบกำหนด หรือต่ำกว่า 7 มก./ดล.ในทารกคลอดก่อนกำหนด) ตรวจหาสาเหตุ (เช่น ตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมนพาราไทรอยด์ วิตามินดี แมกนีเซียม ฟอสเฟต แอลบูมิน การทำงานของไต เป็นต้น) และอาจทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 


การรักษาโดยแพทย์

ในรายที่มีอาการเฉียบพลัน เช่น ชัก มือเท้าจีบเกร็ง หรือกล้ามเนื้อเป็นตะคริว แพทย์จะฉีดแคลเซียมกลูโคเนต 10 มล. เข้าหลอดเลือดดำช้า ๆ หรือผสมในน้ำเกลือหยดเข้าทางหลอดเลือดดำ ซึ่งจะช่วยให้อาการทุเลาทันที

แพทย์ทำการตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาตามสาเหตุ เช่น

    ในรายที่มีประวัติการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ (สังเกตเห็นรอยแผลที่คอ) อาจต้องให้ผู้ป่วยกินเกลือแคลเซียม เช่น แคลเซียมกลูโคเนต เป็นประจำทุกวัน   
    บางรายอาจมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำชั่วระยะหนึ่ง และอาจหายได้เอง แต่บางรายก็อาจเป็นถาวร ซึ่งต้องคอยกินยารักษาตลอดไป
    ในรายที่เกิดจากภาวะขาดพาราไทรอยด์ อาจให้กินเกลือแคลเซียม ร่วมกับวิตามินดี เช่น แคลเซียมทริออล (calcitriol) ร่วมด้วย เป็นประจำทุกวัน ผู้ป่วยอาจต้องกินยาติดต่อกันตลอดไป โดยแพทย์จะนัดตรวจระดับแคลเซียมในเลือดเป็นครั้งคราว


ผลการรักษา ขึ้นกับสาเหตุ รายที่มีสาเหตุที่แก้ไขได้ (เช่น สาเหตุจากการใช้ยาบางชนิด, การกินแคลเซียมน้อยเกินไป, ภาวะเลือดเป็นด่าง) หรือเป็นเพียงชั่วคราว (เช่น ที่พบในทารกที่มีอาการเกิดขึ้นภายใน 3 วันหลังคลอดส่วนใหญ่, ภาวะแทรกจากการผ่าตัดไทรอยด์ในบางราย) มักจะหายขาดได้ แต่ถ้าเกิดจากภาวะขาดพาราไทรอยด์โดยกำเนิด จำเป็นต้องกินยารักษาตลอดไป


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการชัก มือจีบเกร็ง เป็นตะคริวที่ขา ใบหน้า หรือมีความรู้สึกชาที่ริมฝีปาก ลิ้น และปลายมือปลายเท้า ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว 

เมื่อตรวจพบว่าเป็นภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    กินยาแล้วอาการไม่ทุเลา
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ขึ้นกับสาเหตุ สำหรับสาเหตุที่ป้องกันได้ อาจป้องกันได้ ดังนี้

    สาเหตุที่พบบ่อยคือ เกิดจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ อาจป้องกันโดยการระมัดระวังในการทำผ่าตัด และการให้วิตามินดีและแคลเซียมกินป้องกันก่อนผ่าตัด โดยพิจารณาจากระดับวิตามินดีและแคลเซียมในเลือดที่ตรวจพบก่อนผ่าตัด
    การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมพอเพียงกับความต้องการของร่างกาย
    การเฝ้าระวังภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ สเตียรอยด์ ไรแฟมพิซิน เฟนิโทอิน ฟีโนบาร์บิทาล
    การป้องกันภาวะไตวายเรื้อรัง โรคพิษสุราเรื้อรัง

ข้อแนะนำ

อาการที่พบได้บ่อยของผู้ที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำอย่างหนึ่ง คือ อาการมือจีบเกร็ง 2 ข้าง อาการลักษณะนี้อาจมีสาเหตุจากภาวะขาดพาราไทรอยด์ (ซึ่งเป็นผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ และจำเป็นต้องให้การรักษาด้วยการให้แคลเซียมเป็นประจำทุกวัน) หรือกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน (ดู ภาวะกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน) ซึ่งเป็นภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำชั่วคราว และเมื่อแก้ไขภาวะระบายลมหายใจเกินให้หายได้ ก็ไม่จำเป็นต้องให้แคลเซียม วิธีแยกสาเหตุ 2 อย่างนี้ได้ง่าย ๆ คือ หากตรวจพบรอยแผลผ่าตัดไทรอยด์ที่คอ ก็น่าจะเป็นภาวะขาดพาราไทรอยด์มากกว่ากลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน

3
อุปกรณ์ safety ที่ รถรับจ้างขนย้ายบ้าน ควรมีติดรถ

คุณรู้ไหมค่ะว่า ก่อนที่คุณจะเลือกจ้าง บริการรถรับจ้าง สิ่งสำคัญที่คุณควรให้ความสำคัญนั่นคือความปลอดภัย เพราะ ไม่เพียงแต่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อสินค้าที่เราต้องการขนย้ายด้วย อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับเราได้ด้วยค่ะ ดังนั้น ก่อนที่เราจะให้บริการรถรับจ้าง รถรับจ้างขนของทุกคันควรมีอุปกรณ์เซฟตี้ที่จำเป็นติดรถอยู่เสมอ โดย รถรับจ้างขอนแก่น จะพาไปดูว่าอุปกรณ์ safety ที่ควรมี ได้แก่


1. เข็มขัดนิรภัย

ต้องบอกว่าเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นต้องมีสำหรับรถทุกคันค่ะ ไม่ใช่เฉพาะ รถขนของ เท่านั้นค่ะ เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น จะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ค่ะ แน่นอนว่าควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยสามารถใช้งานได้ดีอยู่เสมอค่ะ


2. ไฟฉุกเฉินและไฟส่องสว่าง

ไฟฉุกเฉินใช้สำหรับแจ้งเตือนกรณีรถเสียหรือเกิดเหตุขัดข้องบนท้องถนน เพื่อให้รถคันอื่นๆ ได้เห็นรถเราอย่างชัดเจนค่ะ ในส่วนของไฟส่องสว่างจะช่วยให้สามารถมองเห็นในที่มืดหรือในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยได้ค่ะ


3. สามเหลี่ยมสะท้อนแสง

เป็นสัญลักษณ์ใช้ในกรณีที่เราจอดรถ รถรับจ้างขอนแก่น เพื่อช่วยเตือนรถคันอื่นให้ทราบว่ามีรถจอดอยู่ข้างทางหรือมีอันตรายข้างหน้า ควรวางไว้ในระยะที่เหมาะสมตามมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยต่อเราด้วยค่ะ


4. ถังดับเพลิง

แน่นอนว่าเราไม่สามารถทราบก่อนว่าการขนย้ายของเราจะเกิดไม่เกิดอะไรขึ้น ถังดับเพลิงจะช่วยป้องกันและควบคุมเพลิงไหม้ที่อาจเกิดขึ้นจากระบบไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิงในรถได้ จึงควรเลือกใช้ถังดับเพลิงที่เหมาะสมกับรถและต้องตรวจสอบให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอค่ะ


5. เชือกหรือสายรัดของ

สำหรับรถขนของ รถรับจ้างขอนแก่น แล้ว เชือกหรือสายรัด จำเป็นมากๆ เพราะต้องใช้สำหรับยึดสิ่งของให้แน่น เพื่อไม่ให้เคลื่อนที่ระหว่างการขนส่ง ลดการเสียดสีกันของของที่เราขนย้าย ควรเลือกสายรัดที่แข็งแรง ทนทาน และเหมาะสมกับน้ำหนักของสินค้าที่ขนย้ายค่ะ


6. ถุงมือและรองเท้านิรภัย

สำหรับรถขนของแล้ว ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือ การยกของ ขนย้ายของ อุปกรณ์ safety ที่ช่วยป้องกันตัวเราได้นั่นคือ ถุงมือและรองเท้านิรภัย เพื่อป้องกันมือและเท้าจากอันตรายขณะขนย้ายสิ่งของค่ะ และแน่นอนว่าควรจะเลือกถุงมือที่จับกระชับและรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นเพื่อป้องกันตัวเราได้ค่ะ


7. แม่แรงและชุดเครื่องมือพื้นฐาน

รถรับจ้างขนของ เป็นรถที่ต้องใช้งานตลอดเวลา บางครั้งอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ แม่แรงและชุดเครื่องมือพื้นฐาน จะเป็นตัวช่วยซ่อมแซมเบื้องต้นหากเกิดปัญหาขณะเดินทางได้ค่ะ ซึ่งชุดเครื่องมือพื้นฐานที่ควรมี เช่น ประแจ ไขควง และคีม เพื่อช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ค่ะ


8. ชุดปฐมพยาบาล

ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์ทำแผล ยาแก้ปวด พลาสเตอร์ และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ แน่นอนว่าควรตรวจสอบวันหมดอายุของยาและอุปกรณ์อยู่เสมอนะคะ


9. GPS หรือแผนที่นำทาง

สำหรับ รถรับจ้างทั่วไป แล้ว แผนที่นำทางเป็นตัวสำคัญที่ช่วยให้การเดินทางมีความแม่นยำมากขึ้น และลดโอกาสการหลงทางได้ค่ะ และช่วยค้นหาเส้นทางที่ปลอดภัยและรวดเร็วค่ะ


10. กล้องติดรถยนต์

เป็นตัวช่วยบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ขณะขับขี่ สามารถใช้เป็นหลักฐานกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือปัญหาบนท้องถนนได้ ควรเลือกกล้องที่มีความละเอียดสูงและสามารถบันทึกได้ทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ

อุปกรณ์เซฟตี้เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ รถรับจ้างขนของ ควรมีติดรถอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงสินค้าที่ขนส่ง การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์เหล่านี้เป็นประจำจะช่วยให้ป้องกันและลดการเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นได้ค่ะ เพื่อให้การขนย้ายของเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นค่ะ

หากคุณกำลังมองหารถรับจ้างที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ การเลือกใช้ รถรับจ้างขอนแก่น คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยบริการขนส่งที่มีมาตรฐานสูง พนักงานขับรถมีประสบการณ์ และรถทุกคันได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ไม่ว่าคุณจะขนย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ย้ายไซต์งานก่อสร้าง หรือขนส่งสินค้า ก็มั่นใจได้ในคุณภาพและความตรงต่อเวลา เราพร้อมให้บริการด้วยราคายุติธรรมและซื่อสัตย์ต่อทุกลูกค้า เลือกเราเพื่อการขนส่งที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยตลอดเส้นทาง

4
ทำไมเด็กที่ยังฟันแท้ขึ้นไม่ครบ ต้องเข้ารับการจัดฟันเด็ก

สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พอๆกับเรื่องของสุขภาพของเด็กเลยทีเดียว เพราะเด็กในวัยที่ฟันแท้ยังขึ้นไม่ครบ ถือว่าเป้นวัยแห่งการเรียนรู้และเป็นช่วงที่พัฒนาการของเด็กยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองคงรที่จะเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกิดฟันผุและทำให้เกิดการสูญเสียก่อนวัยอันควร  เพราะการที่ฟันของเด็กหลุดก่อนเวลาอันควรนั้น จะส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ อาจจะส่งผลทำให้ฟันแท้ขึ้นมาผิดรูปหรือบางรายอาจจะเกิดภาวะฟันแท้หาย ซึ่งก็จะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีกด้วย ดังนั้น สิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องเอาใจใส่อีกอย่างหนึ่งก็คือ ควรที่จะสังเกตพฤติกรรมการใช้ชีวิตและหมั่นสังเกตความผิดปกติของฟันของเด็กด้วย

และถ้าหากพบความผิดปกติในเรื่องของสุขภาพฟัน หรือมีการขึ้นของฟันแท้ที่ผิดปกติ พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์จัดฟันได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ฟันแท้ขึ้นครบ เพราะการจัดฟันในปัจจุบันนี้ สามารถรักษาได้ตั้งแต่เด็กที่อายุ 4-15 ปี เพราะพฤติกรรมในวัยเด้กไม่ว่าจะเป็นการดูดนิ้ว ดูดขวดนม ถือว่าเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจจะทำให้เด็กมีปัญหาฟันได้ในอนาคต ซึ่งหากไม่รีบเข้ารับการรักษาหรือแก้ไข อาจจะส่งผลไปในระยะยาวได้ แต่เมื่อถึงตอนนั้น อาจจะแก้ไขได้ยาก หรือมีปัญหาอื่นลุกลามมาในอนาคตได้ เพราะฉะนั้น รีบแก้ไขจะดีที่สุด

ซึ่งในการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะยังมีข้อสงสัยและคำถามในใจว่า ถ้าหากบุตรหลานของท่านยังมีฟันแท้ที่ยังขึ้นไม่ครบ สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ วันนี้เรามีคำถามในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก สำหรับเด็กที่ยังมีฟันแท้ขึ้นไม่ครบ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า การจัดฟันในเด็กนั้นมีด้วยกันหลายรูปแบบ ซึ่งเด็กที่มีอายุ 4-7 ปี เหมาะสำหรับการจัดฟันในเด็กที่ใช้เครื่องมือ EF LINE เพราะการจัดฟันในเด็กแบบนี้ มีเครื่องมือการจัดฟันเป็นลักษณะเป็นชิ้นยางที่มีสีสันที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเด็ก ซึ่งง่ายต่อการรักษา เพราะการรักษาทางทันตกรรม เด็กในวัยนี้อาจะยังไม่มีความรู้ความเข้าใจและอาจจะไม่สามารถร่วมมือกับทันตแพทย์ในการรักษาได้ แต่การรักษาทางทันตกรรมด้วยใช้เครื่องมือ EF LINE ยังสามารถช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าของเด็กได้ สามารถปรับตำแหน่งลิ้นได้ และยังแก้ไขความผิดปกติของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้

ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมต่างๆในวัยเด็ก เพราะฉะนั้น การจัดฟันในเด็กนั้น จึงไม่ต้องรอให้เด็กมีฟันแท้ขึ้นครบก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ เช่นเดียวกับเด็กที่มีอายุ 10-15 ปี ที่มีปัญหาฟันแล้วฟันแท้ยังขึ้นไม่ครบ ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันแบบสวมใส่เหล็กจัดฟันได้ แต่เด็กควรที่จะให้ความร่วมมือกับทันตแทพย์ในการรักษา เพื่อที่จะได้มีผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้งานฟันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สาเหตุที่เด็กในวัยนี้ สามารถสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่นเพราะเด็กในวัยนี้เริ่มจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำความสะอาดช่องปากและฟันได้แล้ว ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก จึงมีประโยชน์ต่อเด็กในระยะยาวได้ ช่วยป้องกันการขึ้นของฟันแท้ที่ผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาฟัน ก็ไม่ต้องรอให้เด็กมีฟันแท้ขึ้นครบ สามารถพาเด็กมาปรึกษาทันตแพทย์ที่คลินิกได้ทันที เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทาด้านการทันตกรรมในเด็ก และยังมีความเชี่ยวชาญทางด้านการจัดฟันในเด็ก จึงสามารถให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอบากให้เด็กๆทุกคนมีฟันที่สวยงาม แข็งแรง มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

5
เตรียมตัวให้พร้อม ขนย้ายกับ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา รถขนของไปต่างจังหวัด

ใครที่กำลังจะขนย้ายบ้าน ย้ายหอ หรือแม้แต่แค่ขนเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น ฟังทางนี้ค่ะ เมื่อคิดจะขนย้าย แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะถ้าพลาดขึ้นมา ของเสียหายหรือขนย้ายไม่ทันเวลา เพิ่มความเครียดแน่นอน แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะวันนี้มีเคล็ดลับ เตรียมตัวให้พร้อม ขนย้ายกับ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา มาฝาก รับรองว่าขนย้ายครั้งนี้จะเป็นเรื่องง่าย แถมยังแอบสนุกและตื่นเต้นอีกด้วยค่ะ


1. ลิสต์ของให้เรียบร้อยก่อนวันขนย้าย

ก่อนอื่นค่ะ ลองหยิบสมุดหรือเปิดมือถือมาจดรายการของที่ต้องขนทั้งหมด จะได้รู้ว่าต้องใช้รถแบบไหน รถกระบะ รถสี่ล้อใหญ่ รถหกล้อ หรือรถใหญ่กว่านี้ ลิสต์ของนี่แหละค่ะ ที่ช่วยให้คุยกับผู้ให้บริการง่ายขึ้น บางทีเรานึกว่าแค่ไม่กี่ชิ้น แต่พอจดแล้ว อ้าว! เต็มคันรถเลยก็เป็นได้ค่ะ


2. เลือกรถรับจ้างที่ใช่ในฉะเชิงเทรา

ฉะเชิงเทรามีรถรับจ้างเพียบค่ะ แต่เลือกรถที่พร้อมจริงๆ สำคัญมาก ลองเลือกเจ้าเก่าที่มีรีวิวดี บริการรวดเร็ว ราคาชัดเจน คุยแล้วสบายใจ อย่าง รถรับจ้างฉะเชิงเทรา ที่ลูกค้าแนะนำกันปากต่อปาก อย่าง ขนส่ง จุดนี้แหละที่ทำให้การขนย้ายไม่น่ากังวล เวลาที่เห็นรถมาจอดหน้าบ้านพร้อมยกของขึ้นรถ


3. แพ็คของให้แน่นหนา ของไม่พัง ของไม่หาย

เตรียมกล่อง เทปกาว เชือก พลาสติกกันกระแทก จัดให้ครบ อย่าลืมแยกของสำคัญ เช่น เอกสาร โทรศัพท์ ของมีค่า ใส่กระเป๋าเก็บไว้กับตัว ส่วนของชิ้นใหญ่ปล่อยให้ทีม รถรับจ้าง ช่วยจัดให้ ทุกอย่างจะดูเป็นระบบ และของจะจัดวางอย่างเป็นระเบียบมีระบบแน่นอน


4. วางแผนเวลาให้เป๊ะ

แจ้งเวลาล่วงหน้าให้ชัด นัดหมายให้ตรง รถจะได้ไม่ติดกลางทาง หรือไม่ต้องรีบจนเกินไป การวางแผนเวลาที่ดีทำให้วันขนย้ายผ่านไปแบบชิลๆ ไม่วุ่นวายค่ะ


5. อย่าลืมสำรวจเส้นทางก่อนวันขนย้าย

แม้ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา จะรู้เส้นทางในพื้นที่ดีอยู่แล้ว แต่การที่เราสำรวจเส้นทางล่วงหน้าก็ช่วยได้มาก ลองดูว่าบ้านใหม่ หอใหม่ หรือที่ทำงานใหม่ เข้าซอยลึกไหม ถนนแคบหรือเปล่า หรือช่วงเวลานั้นรถติดหนักแค่ไหน จะได้บอกทีมขนย้ายให้ปรับแผนทัน บางครั้งการวางแผนเส้นทางนี่แหละค่ะ ที่ทำให้การขนย้ายง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น เป็นไปตามที่เราวางแผนไว้ค่ะ


6. อย่าลืมเตรียมเครื่องดื่ม ของว่างไว้เติมพลัง

วันขนย้ายส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาหลายชั่วโมง ถ้าเป็นของเยอะหรือย้ายระยะไกล บอกเลยว่าเหนื่อยแน่ การเตรียมน้ำดื่มเย็นๆ หรือขนมเล็กๆ ไว้ให้ทีมงานและตัวเราเอง เป็นเรื่องเล็กที่ทำให้บรรยากาศวันขนย้ายดูน่ารักและเป็นกันเองขึ้นเยอะ อีกทั้งยังช่วยให้ทุกคนทำงานด้วยรอยยิ้ม


7. ขนย้ายให้สนุก ด้วยการชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาช่วยดู

ใครว่าขนย้ายต้องเครียดอย่างเดียว ลองชวนเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวมาช่วยดูของหรือจัดของที่บ้านใหม่ดูสิค่ะ ระหว่างรอ รถขนของ ขนของขึ้นรถ หรือจัดของเข้าบ้านใหม่ จะได้มีเสียงหัวเราะ มีคนคอยช่วยตัดสินใจว่าตู้วางตรงไหนดี โต๊ะวางตรงไหน เวลาได้เห็นของถูกยกขึ้นรถครบถ้วน หรือเห็นบ้านใหม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ความตื่นเต้นที่รอวันเริ่มต้นใหม่จะทำให้เหนื่อยแค่ไหนก็หายเป็นปลิดทิ้งค่ะ

ขนย้ายไม่ใช่แค่ขนของ แต่ขนความสบายใจไปด้วย ถ้าพร้อมแบบนี้แล้ว วันขนย้ายครั้งต่อไป ลองใช้บริการ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา ดูนะค่ะ ไม่ว่าจะของมากของน้อย ขนใกล้ขนไกล เราพร้อมช่วยให้การขนย้ายของคุณง่ายและปลอดภัย ขนแล้วสบายใจทุกเที่ยว

   
ทำไมต้องเป็น รถรับจ้างฉะเชิงเทรา

เพราะการขนย้ายที่ดี ไม่ใช่แค่มีรถ แต่ต้องมีคนที่เข้าใจงานขนย้าย รู้วิธีจัดวางของให้ปลอดภัย ขับรถอย่างมืออาชีพ และที่สำคัญ คือ พูดคุยง่าย ให้ความร่วมมือดี รถรับจ้างฉะเชิงเทรา มีทั้งบริการคนยก ช่วยจัดของ แถมราคายังไม่แรงเกินไป ให้คุณเลือกใช้ได้ตามงบประมาณได้เลยค่ะ

ขนย้ายทั้งที เตรียมตัวให้พร้อม แล้วทุกอย่างจะง่ายกว่าที่คิด

แล้ววันขนย้ายของคุณจะเต็มไปด้วยความคล่องตัวและความสบายใจ ที่สำคัญ...ความตื่นเต้นจากการเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตมันช่างดีจริงๆ ใช่ไหมล่ะ? อยากให้การขนย้ายเป็นเรื่องง่าย ลองโทรหาหรือแชทคุยกับ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา แล้วจะรู้เลยว่า ขนย้ายไม่ได้วุ่นวายอย่างที่คิด!


6
ซ่อมบำรุงอาคาร: น้ำแอร์รั่วเกิดจากอะไร ต้องแก้ไขอย่างไร

การใช้งานเครื่องปรับอากาศ เชื่อว่าหลายคนคงใช้เป็นกันอยู่แล้ว เพราะแอร์ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านต้องมีอย่างแน่นอน เนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ซึ่งเครื่องปรับอากาศก็มีความจำเป็นที่จะช่วยในการคลายร้อนได้ แต่การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลืองไฟมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ยิ่งบ้านไหนใช้งานทุกวัน ก็ต้องยอมเสียเงินจ่ายค่าไฟหลักพันเลยทีเดียว แต่การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น ถ้าเราใช้งานอย่างถูกต้อง ก็สามารถประหยัดค่าไฟไปได้เยอะ แถมยังช่วยรักษาอายุการใช้งานให้อยู่คู่กับบ้านได้นานอีกด้วย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เครื่องปรับอากาศที่เราใช้งานอยู่ทุกวันๆนั้น


เราใช้งานถูกต้องแล้ว อย่างที่บอกว่า เครื่องปรับอากาศ ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านหรือครัวเรือนแทบจะทุกหลังคาเรือนต้องมี เพราะด้วยอากาศที่ร้อนมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าวเป็นพิเศษ  ทำให้เรารู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาได้เลยทีเดียว การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องใช้งานให้ถูกวิธีเพื่อที่จะรักษาเครื่องปรับอากาศของเราให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและไม่เกิดเสียก่อนเวลาอันควร ในขณะที่เราใช้งานเครื่องปรับอากาศ อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำแอร์รั่ว ซึ่งเชื่อว่า หลายคนคงเคยประสบปัญหานี้ แต่อาจจะไม่ทราบสาเหตุว่า ปัญหาน้ำแอร์รั่วออกมานั้น เกิดจากอะไรบ้างและต้องแก้ไขอย่างไร ซึ่งวันนี้เราจะมาช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวกัน เพื่อที่คนที่มีปัญหาดังกล่าวได้ใช้งานแอร์ได้อย่างไม่สะดุด


หากพูดถึงเรื่องของปัญหาน้ำแอร์รั่วนั้น จะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆคือ การที่มีฝุ่น เข้าไปจับตัวกันหรืออุดตันอยู่ภายในแอร์มากจนเกินไป ก็จะทำให้ในขณะที่เราเปิดแอร์นั้น น้ำก็จะจับตัวกันเป็นก้อนและกลายเป็นน้ำแข็งจากนั้นตัวเครื่องของแอร์ก็จะไม่สามารถระบายความเย็นออกมาได้ทันและทำให้เกิดเป็นหยดน้ำไหลออกมาจากตัวแอร์ของเรา หากเกิดเช่นนี้ขึ้นเราควรที่จะเรียกให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้ เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดอย่างถูกต้องและจะได้ตรวจสอบ น้ำยาแอร์ด้วย เพราะถ้าหากน้ำยาแอร์มีน้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้ระบบแอร์นั้น ปรับอากาศได้ไม่เพียงพอและอาจจะทำให้เครื่องพังได้ในเวลาต่อมา ซึ่งก็อาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดน้ำแอร์รั่วด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ในการติดตั้งแอร์ที่ไม่ได้ติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ก็จะส่งผลทำให้การการเดินท่อภายในนั้นไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ


นอกจากนั้น ท่อที่นำมาใช้อาจจะไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้เกิดหยุดน้ำเกาะบริเวณท่อ และทำให้เกิดน้ำแอร์หยดได้ แต่เมื่อเราพบปัญหาน้ำแอร์รั่ว ไม่ว่าจะจากสาเหตุอะไรก็ตาม เราสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการล้างแอร์ให้ตรงตามกำหนดการล้างแอร์ เพื่อเป็นการทำความสะอาดแอร์ ซึ่งเราจะได้มีแอร์ใช้งานต่อไปได้นานยิ่งขึ้น ควรให้ผู้เชี่ยวชาญในการล้างแอร์เพราะหากเรามีความเชี่ยวชาญไม่พอก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ในภายหลัง ซึ่งการล้างแอร์จะช่วยทำให้คนในบ้านมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย


เพราะฉะนั้น เราจะต้องหมั่นตรวจเช็คและตรวจสอบสภาพแอร์อยู่เป็นประจำ ซึ่งเราควรที่จะสังเกตว่าแอร์ของเรานั้นที่ตัวกรองมีฝุ่นเกาะมากเกินไปหรือไม่ หากมีมากเกินไปเราก็สามารถแกะออกมาล้างก่อนได้ด้วยตัวเอง เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นก่อน รวมทั้ง การตรวจดูถาดน้ำทิ้ง ซึ่งเราควรที่จะตรวจเช็คอยู่บ่อยๆ เพื่อดูว่าถาดน้ำทิ้งนั้นเลื่อนหรือเคลื่อนไปจากเดิมหรือไม่ และหากมันไม่ได้อยู่ที่เดิมก็ควรที่จะแก้ไขทำให้มันกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแอร์รั่วได้ในเบื้องต้น เมื่อเราพบเจอปัญหา เราควรรีบแก้ไขเพื่อให้การใช้งานเครื่องปรับอากาศใน้านเรา สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าด้วย


ทั้งนี้เราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณ ทางเรามีบริการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่า ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคาร นั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไป ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากยิ่งขึ้น

7
หมอออนไลน์: บาดทะยัก (Tetanus)

บาดทะยัก เป็นโรคที่มีอันตรายร้ายแรง ซึ่งยังพบได้เป็นครั้งคราวในบ้านเรา พบได้ในคนทุกวัย ส่วนมากจะมีประวัติมีบาดแผลตามร่างกาย (เช่น ตะปูตำ หนามเกี่ยว มีบาดแผลสกปรก หรือขาดการดูแลที่ถูกต้อง) และผู้ป่วยไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักมาก่อน

ในสมัยก่อนพบทารกแรกเกิดเป็นบาดทะยักค่อนข้างบ่อย เรียกว่า บาดทะยักในทารกแรกเกิด (tetanus neonatorum)* เนื่องจากการคลอดที่ไม่สะอาด (เช่น คลอดตามบ้านโดยใช้ไม้รวกหรือตับจากตัดสายสะดือ) หรือการดูแลสะดือไม่ถูกต้อง (เช่น ใช้น้ำหมากน้ำลายบ้วน) ทำให้เกิดการติดเชื้อกลายเป็นบาดทะยัก ซึ่งมักจะพบมีอาการช่วงหลังคลอด ประมาณ 4-14 วัน

ในปัจจุบัน พบโรคนี้น้อยลงทั้งในผู้ใหญ่และทารกแรกเกิด เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนป้องกัน มีการคลอดที่สะอาดปลอดภัย และการดูแลสะดือทารกที่ถูกต้องมากกว่าสมัยก่อนมาก

* โบราณเรียก ลมสะพั้น ลมตะพั้น สะพั้น หรือตะพั้น หมายถึง อาการชัก มือกำเท้ากำในเด็กอ่อน ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็คือบาดทะยัก

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อบาดทะยัก ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียมเตตานิ (Clostridium tetani) มีลักษณะเป็นสปอร์ มีอยู่ทั่วไปตามดิน ฝุ่น มูลสัตว์ (เช่น วัว ควาย หมู ไก่ สุนัข แมว หนู) และอุจจาระคน เชื้อมีความทนทานต่ออุณหภูมิ ความชื้น และสารเคมีฆ่าเชื้อ (เช่น แอลกอฮอล์ ฟีนอล ฟอร์มาลดีไฮด์) สามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานเป็นปี ๆ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล* โดยการแปดเปื้อนถูกดิน ฝุ่น มูลสัตว์ หรืออุจจาระที่มีสปอร์ของเชื้อบาดทะยัก แล้วแบ่งตัวเจริญเติบโตที่บริเวณบาดแผล ซึ่งจะเจริญได้ดีในที่ ๆ มีออกซิเจนน้อย ได้แก่ บาดแผลที่ลึกและแคบ (เช่น บาดแผลถูกตำ) แต่ก็อาจเจริญในบาดแผลถลอกและบาดแผลในลักษณะอื่น ๆ หลังจากนั้นเชื้อจะปล่อยพิษ (มีชื่อว่า tetanospasmin หรือ tetanus toxin) ออกมา ซึ่งจะกระจายไปตามเส้นประสาท และออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อที่รอยต่อกล้ามเนื้อร่วมประสาท (neuromuscular junction) และประสาทส่วนกลาง กระตุ้นให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเกิดการหดเกร็ง (spasm) และแข็งตัว (rigidity) ขณะเดียวกันก็ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ชีพจรและความดันผิดปกติ เหงื่อออกมาก หลอดเลือดส่วนปลายตีบตัว

ระยะฟักตัว 5 วัน-15 สัปดาห์ (ส่วนใหญ่ระหว่าง 6-15 วัน) ระยะฟักตัวยิ่งสั้น โรคจะยิ่งรุนแรงและอันตราย

* ส่วนใหญ่เป็นบาดแผลตามผิวหนังและสะดือทารก ส่วนน้อยที่เป็นบาดแผลอื่น ๆ เช่น บาดแผลฉีดยาด้วยเข็มไม่สะอาด บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก บาดแผลในช่องปาก (เช่น ฟันผุ ถอนฟัน) ช่องหู (หูน้ำหนวก) บาดแผลผ่าตัด เป็นต้น


อาการ

ระยะแรกเริ่ม ผู้ป่วยจะมีอาการขากรรไกรแข็ง (lockjaw) เนื่องจากกล้ามเนื้อเกี่ยวกับการเคี้ยว หดเกร็ง และแข็งตัว ทำให้มีอาการขยับปากไม่ได้ ทำท่าเหมือนยิ้มแสยะ กลืนลำบาก

ผู้ป่วยอาจมีอาการกระสับกระส่าย

ในทารกมักมีอาการร้องกวน ไม่ยอมดูดนม และอ้าปากไม่ได้

ต่อมาจะมีอาการหดเกร็งและแข็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอ หน้าอก หน้าท้อง หลัง แขนขา ทำให้มีอาการคอแข็ง ท้องแข็ง หลังแอ่น (opisthotonus)

เมื่อถูกสิ่งกระตุ้น เช่น การถูกสัมผัสตัว แสงสว่างเข้าตา (เช่น แสงแดด แสงไฟจ้า) หรือได้ยินเสียงดัง ๆ ผู้ป่วยจะมีอาการชักเกร็งของแขนขาและกล้ามเนื้อทุกส่วนเป็นพัก ๆ

ผู้ป่วยมีสติรู้สึกตัวดีตลอดเวลา (ต่างกับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบและสมองอักเสบที่ผู้ป่วยไม่ค่อยรู้สึกตัว) และทุกครั้งที่ชักจะรู้สึกปวดมาก

ขณะที่มีอาการชักเกร็ง ผู้ป่วยอาจหายใจลำบาก ตัวเขียว และอาจหยุดหายใจได้

ขากรรไกรแข็ง


ภาวะแทรกซ้อน

อาจพบอาการขาดออกซิเจนขณะชัก อาการขาดอาหารเพราะกลืนไม่ได้ ถ่ายอุจจาระและปัสสาวะไม่ได้ เนื่องจากการแข็งตัวของกล้ามเนื้อหูรูด ปอดอักเสบ ปอดแฟบ (atelectasis) ปอดทะลุ กระดูกสันหลังหักจากการชัก

ในระยะท้ายของโรค ผู้ป่วยอาจหยุดหายใจ และหัวใจวายถึงตายได้

อาการชักเกร็งทั้งตัวและหลังแอ่น


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งมักตรวจพบอาการขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ได้ ใบหน้ามีลักษณะเหมือนยิ้มแสยะ (อาจมีกลิ่นปากถ้าเป็นมาหลายวัน) คอแข็ง หลังแอ่น และอาการชักเกร็งเป็นพัก ๆ เวลาถูกสิ่งกระตุ้น

รีเฟล็กซ์ของข้อ (tendon reflex) มักจะไวกว่าปกติ

อาจไม่มีไข้หรือมีไข้ต่ำ ๆ (ไข้มักไม่สูงมาก ยกเว้นในรายที่มีปอดอักเสบแทรก)

ในรายที่เป็นรุนแรง อาจมีชีพจรเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูงหรือต่ำกว่าปกติ เหงื่อออกมาก ไข้ขึ้นสูง หลอดเลือดส่วนปลายตีบตัว

ส่วนมากจะพบมีบาดแผลอักเสบ (ในทารกมักพบว่ามีสะดืออักเสบ) แต่ในบางรายอาจไม่พบบาดแผลชัดเจนก็ได้

หากแยกไม่ได้ชัดเจนจากสาเหตุอื่น อาจต้องทำการตรวจพิเศษ เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เพาะเชื้อ เจาะหลัง ตรวจน้ำไขสันหลัง เอกซเรย์ เป็นต้น เพื่อวินิจฉัยแยกโรคอื่น ๆ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ให้การรักษาตามอาการและรักษาแบบประคับประคอง เช่น ให้สารน้ำ เกลือแร่ และอาหาร ให้ยากันชัก (เช่น ไดอะซีแพม) ใส่ท่อหายใจ (บางรายอาจต้องเจาะคอ) และใช้เครื่องช่วยหายใจ ดูแลรักษาบาดแผล เป็นต้น

ที่สำคัญ จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ให้ยาต้านพิษบาดทะยักและยาปฏิชีวนะ

ผลการรักษา ถ้าผู้ป่วยได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่มที่เป็น ก็มักจะมีโอกาสหายขาดได้ อาจต้องใช้เวลารักษาและฟื้นฟูสภาพด้วยการทำกายภาพบำบัด นานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน แต่ถ้าปล่อยไว้จนมีอาการรุนแรง (เช่น หลังแอ่น) แล้ว โอกาสรอดก็น้อยลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบในทารกหรือผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีระยะฟักตัวของโรคสั้น มีไข้สูง หรือชักตลอดเวลา ก็มีโอกาสมีอันตรายมากยิ่งขึ้น

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น  มีอาการขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ได้ ใบหน้ามีลักษณะเหมือนยิ้มแสยะ คอแข็ง หลังแอ่น และอาการชักเกร็งเป็นพัก ๆ เวลาถูกสิ่งกระตุ้น (เช่น แสง เสียง การสัมผัสถูกตัว) ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อพบว่าเป็นบาดทะยัก ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด


การป้องกัน

1. ฉีดวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (DTP) ตั้งแต่อายุได้ 2 เดือน ถ้าไม่เคยฉีดตอนเด็ก ควรฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักให้ครบตามกำหนด และควรฉีดกระตุ้นทุก ๆ 10 ปี

2. สำหรับหญิงตั้งครรภ์ หากไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยักมาก่อน ควรฉีดวัคซีนรวม 3 เข็ม โดยเริ่มฉีดเข็มแรกเมื่อฝากครรภ์ครั้งแรก เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 1 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 6 เดือน (ถ้าฉีดไม่ทันขณะตั้งครรภ์ ก็ให้ฉีดหลังคลอด) จากนั้นให้กระตุ้นทุก 10 ปี

หากเคยได้รับวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม ควรให้อีก 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน หากเคยได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม ควรให้อีก 1 เข็ม ห่างจากเข็มที่ 2 อย่างน้อย 6 เดือน จากนั้นให้กระตุ้นทุก 10 ปี

หากเคยได้รับวัคซีนมาก่อนอย่างน้อย 3 เข็ม และเข็มสุดท้ายนานกว่า 10 ปี ให้ฉีดกระตุ้นอีกเพียง 1 เข็ม จากนั้นให้กระตุ้นทุก 10 ปี

3. ควรแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์คลอดกับบุคลากรที่รู้จักรักษาความสะอาดในการทำคลอด ถ้าจำเป็นต้องคลอดกันเองที่บ้าน ควรใช้กรรไกรที่ผ่านกรรมวิธีในการฆ่าเชื้อตัดสายสะดือเด็ก นอกจากนี้ควรแนะนำให้รู้จักทำความสะอาดสะดือเด็กอย่างถูกต้อง

4. เมื่อมีบาดแผลตะปูตำ หนามตำ สัตว์กัด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือบาดแผลสกปรก ควรชะล้างบาดแผลด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ทันที และพิจารณาให้ฉีดยาป้องกันบาดทะยัก (วัคซีนปัองกันบาดทะยัก ยาต้านพิษบาดทะยัก) ตามตารางข้างล่าง

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการบาดทะยักเฉพาะที่ คือมีอาการหดเกร็งและแข็งตัวของกล้ามเนื้อใกล้บริเวณบาดแผล มักเกิดจากการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงและหายไปได้เอง แต่ในบางรายก็อาจมีอาการกระจายไปทั่วร่างกายก็ได้

2. ผู้ป่วยบาดทะยักในระยะแรกเริ่มที่มีอาการขากรรไกรแข็ง และคอแข็ง โดยผู้ป่วยยังรู้สึกตัวดีและไม่มีไข้ อาจแยกไม่ได้ชัดเจนจากอาการข้างเคียงจากยา เช่น เมโทโคลพราไมด์ ฟีโนไทอาซีน (phenothiazine) เป็นต้น ถ้าพบผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าว แพทย์จะรับตัวไว้สังเกตอาการในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ถ้าเกิดจากยามักมีประวัติเกิดอาการหลังใช้ยาและจะทุเลาได้เองเมื่อหมดฤทธิ์ยา (ภายใน 6-8 ชั่วโมง) หรือหลังให้ยา (เช่น ไดเฟนไฮดรามีน)

8
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


9
ดอกบัวในโถแก้ว: การทำ ดอกไม้สดอบแห้ง

ดอกไม้สดอบแห้ง เป็นวิธีการทำให้ดอกไม้แห้งยังคงความสวยงามตามธรรมชาติไว้ได้มากที่สุด โดยเทคนิคการอบแห้งด้วยซิลิกาทราย และซิลิกาเจล แล้วนำดอกไม้ที่แห้งแล้วไปจัดลงในโถแก้วรูปทรงต่างๆ ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาดอกไม้ได้นานขึ้นหลายปี

วิธีการทำ

เลือกดอกไม้สำหรับอบแห้ง ดอกไม้สดเกือบทุกชนิดสามารถนำมาทำเป็นดอกไม้อบแห้งได้ ที่นิยมก็อาทิ กุหลาบ กล้วยไม้ คาร์เนชั่น ลิลลี่ เป็นต้น ทริคก็คือหากเลือกดอกกุหลาบ ควรเลือกกุหลาบดอกใหญ่ สด กลีบดอกอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีรอยช้ำหรือเน่าเสีย ไม่เป็นโรค หรือถูกหนอนกัดกิน ถ้าเลือกดอกกล้วยไม้ ควรเลือกดอกแก่โดยสังเกตจากโคนดอก (ถ้าเป็นดอกอ่อนโคนดอกจะเป็นสีเขียว) เลือกดอกที่สมบูรณ์ ไม่มีรอยหักพับ ช้ำ และกลีบดอกไม่ควรหนามาก เพราะกลีบหนาจะอุ้มน้ำมากเมื่อนำมาอบอาจทำให้ดอกเน่าใช้งานไม่ได้ สีที่โดดเด่นคือสีม่วงเข้ม โดยเฉพาะม่วงลายเสือ สำหรับคาร์เนชั่น ทุกสีอบได้สวยเช่นกัน เพียงแต่จะมีสีอ่อนลง ส่วนลิลลี่ ควรเลือกดอกที่มีขนาดพอเหมาะ เพราะดอกใหญ่จะหาแก้วจัดได้ยาก และควรเลือกสีชมพู

วิธีการอบแห้งดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น และลิลลี่

1. นำดอกกุหลาบแช่น้ำไว้ 1 คืน เพื่อให้ดอกบาน (ไม่มาก) ส่วนคาร์เนชั่น และลิลลี่ ไม่ต้องแช่น้ำ แต่ต้องเช็ดน้ำออกให้แห้ง

2. นำกุหลาบขึ้นจากน้ำ เด็ดกลีบเสียทิ้ง สลัดน้ำออกอย่างเบามือที่สุด หรือใช้สำลีก้านซับ ตัดก้านออกให้เหลือ 2-3 ซ.ม.

3. ถ้าดอกไหนแช่น้ำแล้วยังไม่บานพอ ให้ใช้สำลีก้านค่อยหมุนไปตามรอบโคนกลีบขณะเช็ดน้ำ

4. เทซิลิกาทรายใส่กล่องพลาสติก (ชนิดกลมหรือเหลี่ยมก็ได้) ประมาณครึ่งกล่อง

5. ใช้คีมจับก้านดอกปักลงในซิลิกาทรายให้ดอกตั้งขึ้นเว้นระยะห่างพอประมาณ อย่าให้ดอกซ้อนทับกัน จากนั้นค่อยๆเทซิลิกาทรายลงบนดอกไม้ให้ทั่ว กลบให้ท่วมดอก

6. ปิดฝากล่องพลาสติกให้สนิท อบนาน 5-7 วัน ทิ้งไว้ในที่ร่ม ครบกำหนดเทซิลิกาทรายออก ใช้คีมจับก้านดอกดึงออกมา คว่ำดอกลงแล้วใช้คีมอีกอันเคาะคีมที่จับก้านดอกเบาๆ เพื่อให้ซิลิกาทรายที่ติดดอกหลุดออกให้หมด ใส่ดอกลงกล่องพลาสติกที่มีซิลิกาเจลรองพื้น ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่ม

วิธีการอบดอกกล้วยไม้

วิธีการคือเด็ดดอกออกจากช่อโดยให้มีก้านเหลือประมาณ 3-4 ซ.ม. เทซิลิกาทรายใส่กล่องพลาสติกกลม ประมาณครึ่งกล่อง ใช้ด้ามคีมเกลี่ยซิลิกาไปไว้ข้างๆ กล่อง พร้อมหมุนกล่องพลาสติกวนไปให้รอบ (ลักษณะของทรายที่เกลี่ยเสร็จแล้วจะเป็นหลุมตรงกลาง) ใช้คีมโค้งจับก้านดอกกล้วยไม้ให้หันด้านหน้าเข้าหาตัว กดดอกลงบนทรายข้างๆ กล่อง ใช้นิ้วชี้มือซ้ายกดตรงกลางดอกเบาๆ อย่าให้ดอกดันขึ้นจากทรายจัดกลีบดอกให้สวยด้วยการใช้ด้ามคีมกรีดกลีบดอกกลีบเล็กทั้ง 3 กลีบ (กลีบซ้าย กลีบขวา และกลีบบน) 1 ครั้งเพื่อให้กลีบดอกจมทราย ใช้ด้ามคีมเกลี่ยทรายหนุนกลีบเล็กด้านล่างให้สูงขึ้นจากทรายนิดหน่อย และหนุนกลีบดอกกลีบใหญ่ทั้ง 2 กลีบด้วย ปักดอกกล้วยไม้ให้เต็มกล่อง ตักซิลิกาทรายเทปิดดอกเบาๆ จนมิด นำเข้าอบไมโครเวฟประมาณ 1-1.5 นาที โดยไม่ต้องปิดฝากล่อง เสร็จแล้วนำออกมา ปิดฝากล่องพลาสติกอบไว้ 3 วัน

10
คนเป็นโรคความดันสูงห้ามกินอะไร

สำหรับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง อาหารมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมระดับความดัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้อง จำกัด หรือ หลีกเลี่ยง อาหารบางประเภทอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีผลทำให้ปริมาณน้ำในร่างกายและแรงดันในหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้น

นี่คือกลุ่มอาหารที่ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัด เป็นอันดับแรก:

1. อาหารที่มี "โซเดียม" สูง (สาเหตุหลักที่ทำให้อาการแย่ลง)

โซเดียม (เกลือ) เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณเลือดในหลอดเลือดเพิ่มขึ้น และความดันโลหิตสูงขึ้นตามมา ผู้ป่วยควรจำกัดปริมาณโซเดียมไม่เกิน 1,500 – 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน (เทียบเท่าเกลือประมาณ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา/ซีอิ๊วประมาณ 3-4 ช้อนชาต่อวัน)


ประเภทอาหาร   ตัวอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง/จำกัด

เครื่องปรุงรสเค็ม   เกลือ, น้ำปลา, ซีอิ๊ว, ซอสหอยนางรม, ซอสปรุงรส, น้ำจิ้มทุกชนิด (เช่น น้ำจิ้มสุกี้, น้ำจิ้มซีฟู้ด)
อาหารแปรรูป   ไส้กรอก, แฮม, เบคอน, กุนเชียง, หมูยอ, ลูกชิ้น, อาหารแช่แข็ง, เนื้อสัตว์รมควัน
อาหารกึ่งสำเร็จรูป   บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, โจ๊กซอง, ซุปก้อน, ผงปรุงรสสำเร็จรูป
อาหารหมักดอง   ผักกาดดอง, ผลไม้ดอง, ปลาเค็ม, ไข่เค็ม, ปลาร้า, กะปิ
ขนมขบเคี้ยว            ขนมกรุบกรอบ, มันฝรั่งทอด, ถั่วอบเกลือ, แครกเกอร์, อาหารอบกรอบรสเค็ม


2. อาหารที่มี "ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์" สูง

ไขมันเหล่านี้ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและตีบตัน ทำให้หัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้นเพื่อดันเลือดผ่านหลอดเลือดที่ตีบแคบ ส่งผลให้ความดันสูงขึ้น

ประเภทอาหาร           ตัวอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง/จำกัด
ไขมันจากสัตว์           หนังไก่, หมูสามชั้น, ขาหมู, เนื้อสัตว์ติดมัน, เครื่องในสัตว์
อาหารที่ใช้ไขมันสูง    อาหารทอดซ้ำ, เนย, เนยเทียม (มาการีน), ครีมเทียม
ผลิตภัณฑ์นมไขมันสูง   ชีส (บางชนิด), วิปปิ้งครีม, นมข้นหวาน, โยเกิร์ตที่มีไขมันสูง
อาหารที่มีกะทิ           แกงกะทิ, ขนมไทยที่ใส่กะทิ (ถ้าจะทานควรจำกัดปริมาณ)


3. เครื่องดื่มและอาหารที่มี "น้ำตาล" สูง
การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปสามารถนำไปสู่โรคอ้วนและโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคความดันโลหิตสูง และอาจส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือดโดยตรง

เครื่องดื่มรสหวาน: น้ำอัดลม, ชานมไข่มุก, น้ำผลไม้กล่อง (ที่มีน้ำตาลสูง), กาแฟใส่นม/น้ำตาลเยอะ

ขนมหวาน: เค้ก, คุกกี้, โดนัท, ขนมปังที่มีไส้หวานมาก ๆ

4. เครื่องดื่ม "แอลกอฮอล์" และ "คาเฟอีน"
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจำมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างมาก และยังลดประสิทธิภาพของยาลดความดันด้วย ควรงด หรือจำกัดอย่างเคร่งครัด

คาเฟอีน: ในบางคน การดื่มชาหรือกาแฟที่มีคาเฟอีนในปริมาณสูงอาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นชั่วคราว ควรสังเกตอาการตัวเองและปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติหลังการดื่ม

สรุป: หัวใจสำคัญคือการลดโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และน้ำตาล ควบคู่ไปกับการเพิ่มผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยลดความดันโลหิตได้ตามแนวทาง DASH Diet

11
จัดฟันบางนา: เครื่องมือจัดฟันแบบใส ต้องใส่อย่างไร จึงจะได้ผล
 
การจัดฟันแบบใสเป็นรูปแบบการจัดฟันที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ผู้เข้ารับการจัดฟันในยุคสมัยปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเครื่องมือการจัดฟันที่สามารถสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบายและสามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหารและแปรงฟัน เรียกได้ว่าการจัดฟันแบบใสแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเลยทีเดียว ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการจัดฟันแบบเหล็กจัดฟันจะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมากกว่า

เนื่องจากเครื่องมือที่มีการติดแน่นอยู่บนผิวฟัน อาจทำให้ต้องระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร เพราะถ้าหากเครื่องมือเกิดหลุดขณะรับประทานอาหารก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการจัดฟันลดลง เพราะเครื่องมือไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง แต่การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการจัดฟันจะสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้ ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายและเต็มที่มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ยังถูกออกแบบมาเพื่อเฉพาะบุคคล ทำให้สวมใส่ได้กระชับ สบายช่องปาก ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งถือว่า เป็นการจัดฟันแห่งยุคที่ได้นำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการรักษาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบใสและเครื่องมือการจัดฟันแบบใสจะมีข้อดีหลายข้อและมีประสิทธิภาพ มีผลการรักษาที่แม่นยำ

แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างในการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันที่จะช่วยทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ สำหรับใครที่สนใจที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใสที่กำลังศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆก่อนตัดสินใจเข้ารับการจัดฟันอาจจะมีคำถามที่ว่า เครื่องมือการจัดฟันแบบใสเราจะต้องสวมใส่อย่างไร เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการใส่เครื่องมือการจัดฟันให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราพึงพอใจเพื่อจะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง
 
สำหรับการสวมใส่หรือใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส อาจไม่ง่ายอย่างที่เราคิด เนื่องจากเครื่องมือชนิดนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้เข้ารับการจัดฟันเป็นอย่างมาก การที่เครื่องมือจัดฟันแบบใส สามารถถอดเข้าออกได้อย่างสะดวกสบายนั้น สำหรับผู้เข้ารับการจัดฟันบางคน ก็อาจกลายเป็นข้อเสียได้เหมือนกัน เพราะผู้เข้ารับการจัดฟันมีความจำเป็นต้องสวมใส่เครื่องมือแบบใส ไม่ต่ำกว่าวันละ 20-22 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ผลดี

ที่ต้องบอกว่า ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องมีวินัยในการจัดฟันนั้น เพราะบางคนเผลอลืมใส่ หรืออาจจะเผลอถอดก่อนรับประทานอาหารจนทำให้ลืมสวมใส่เครื่องมือ ซึ่งส่งผลต่อการรักษาอย่างแน่นอน ถ้าผู้เข้ารับการจัดฟันไม่มีวินัยในการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน ก็ยากที่จะได้ผลที่แม่นยำตามทีทันตแพทย์วางไว้ นอกจากนั้น การใส่เครื่องมือแบบใสไม่สม่ำเสมอ จนฟันไม่เคลื่อนตามแผนการรักษา ทำให้กลับไปใส่ชุดเครื่องมือที่มีอยู่ไม่ได้ อาจต้องทำเครื่องมือใหม่ ซึ่งนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นมาด้วย

เปรียบเทียบได้กับการสวมใส่รีเทนเนอร์หลังการจัดฟัน ถ้าไม่ใส่ ก็อาจจะทำให้ฟันเคลื่อนได้ ทางที่ดีผู้เข้ารับการจัดฟันควรที่จะสวมใส่เครื่องมือตามคำแนะนำของทันตแพทย์เพื่อที่จะได้มีผลการรักษาตามที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง
หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานเกี่ยวกับด้านการจัดฟัน จึงสามารถให้บริการทางด้านทันตกรรมได้ครบวงจรและมีความปลอดภัย

ทั้งนี้ ทางคลินิกเรา ยังได้รับการรับรองสูงสุดจาก Invisalign เพื่อให้เข้ารับการจัดฟันได้อย่างถูกต้อง มีมาตรฐานสากลและยังมีความน่าเชื่อถือเพราะการจัดฟันแบบใสนั้น จะต้องได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ที่ผ่านการรับรองเท่านั้น

เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย และทางทันตแพทย์ของเรายังสามารถให้คำปรึกษาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันได้อย่างถูกต้องและเป็นกันเอง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหากคุณเข้ารับการรักษาจากทางคลินิกของเรา คุณจะมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติและสามารถใช้ชีวิตชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

12
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


13
หมอประจำบ้าน: โรควิตกกังวล (Anxiety disorders) โรคกังวลทั่วไป (Generaliz ed anxiety disorder/GAD)

โรคกังวลทั่วไป จัดเป็นโรควิตกกังวล* ที่พบได้บ่อยชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยจะมีภาวะวิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุเกี่ยวกับปัญหาหรือเหตุการณ์ทั่วไปในชีวิตประจำวันพร้อมกันหลายเรื่อง โดยไม่มีสาเหตุจากการเจ็บป่วยอื่น ๆ หรือจากการใช้ยาหรือสารเสพติด และไม่พบว่าเกิดจากสาเหตุจำเพาะอันใดอันหนึ่ง อาการมักเป็นเรื้อรังนานเกิน 6 เดือน และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย มักมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น

พบได้ประมาณร้อยละ 3-8 ของประชาก รทั่วไปเมื่อติดตามในช่วง 1 ปี

พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 เท่า

* โรควิตกกังวล (anxiety disorders) หมายถึงภาวะวิตกกังวลหรือมีความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรงกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการทางกายและใจ กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โรคกลุ่มนี้ยังแบ่งออกเป็นชนิดย่อยได้หลายชนิด ดังนี้

1. โรคกังวลทั่วไป (generaliz ed anxiety disorder/GAD) ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกังวลมากเกินกว่าเหตุในหลาย ๆ เรื่องพร้อมกัน ร่วมกับอาการผิดปกติทางกายต่าง ๆ อย่างเรื้อรัง โดยไม่มีสาเหตุจากการเจ็บป่วยอื่น ๆ และการใช้ยาหรือสารเสพติด และไม่พบว่าเกิดจากสาเหตุจำเพาะอันใดอันหนึ่ง

2. โรคแพนิก (panic disorder) ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรง โดยไม่มีเหตุกระตุ้นชัดเจน อาการจะเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ แต่กำเริบได้บ่อย (ดู “โรคแพนิก” เพิ่มเติม)

3. โรคกลัว (phobias) ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกลัวต่อสิ่งหรือสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างมากเกินกว่าเหตุ และไม่กล้าเผชิญกับสิ่งหรือสถานการณ์นั้น ๆ จนกระทบต่อการดำเนินชีวิต อาจมีลักษณะกลัวต่อสิ่งหรือสถานการณ์หนึ่ง ๆ อย่างจำเพาะ (specific phobia) เช่น กลัวสัตว์ต่าง ๆ (สุนัข งู คางคก แมลงสาบ) ที่สูง ที่แคบ ความมืด เชื้อโรค การโดยสาร เครื่องบิน การเห็นเลือด การทำฟัน เป็นต้น หรือกลัวการเข้าสังคม (social phobia) เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ การพูดในที่ชุมชน เป็นต้น หรือกลัวการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่หลบออกได้ยากหรือรู้สึกลำบากใจเมื่อเกิดอาการแพนิก (agoraphob ia) เช่น การอยู่ในฝูงชน ที่ชุมนุม หรือห้องประชุม เป็นต้น อาการมักเป็นอยู่นานอย่างน้อย 6 เดือน โรคนี้มักมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงวัยรุ่น

การรักษา ให้ยาทางจิตประสาทร่วมกับการทำจิตบำบัด และพฤติกรรมบำบัด โดยเฉพาะก ารให้เผชิญกับสิ่งหรือสถานการณ์ที่ผู้ป่วยกลัว (exposure therapy)

4. โรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive-compulsive disorder) ผู้ป่วยจะมีอาการคิดหรือทำอะไรซ้ำ ๆ โดยไม่มีเหตุผล จนมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เรื่องที่ย้ำคิดมักเป็นเรื่องไร้สาระ น่ากลัว หรือน่ารังเกียจ เช่น ความสกปรก ความรุนแรง การทำร้ายผู้อื่น อุบัติเหตุ เรื่องเพศ ลืมปิดประตู ลืมปิดไฟ เป็นต้น ส่วนอาการย้ำทำจะมีลักษณะทำอะไรซ้ำ ๆ เช่น ล้างมือ จัดสิ่งของให้เป็นระเบียบ นับสิ่งของ นับจังหวะก้าวที่เดิน ตรวจเช็กกลอนประตูหน้าต่าง สวิตช์ไฟหรือเตาแก๊ส เป็นต้น อาการมักเป็นอยู่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ โรคนี้มักมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น การรักษาเช่นเดียวกับโรคกลัว

5. โรควิตกกังวลหลังเผชิญเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น สงคราม ภัยธรรมชาติ ถูกทำร้ายหรือข่มขืน อุบัติเหตุร้ายแรง เป็นต้น ผู้ป่วยจะมีอาการหวาดผวาอย่างรุนแรง มีความรู้สึกสิ้นหวัง คิดและฝันซ้ำ ๆ รวมทั้งลืมเหตุการณ์นั้น ๆ ผู้ป่วยมักมีอาการนอนไม่หลับ ตื่นเต้นตกใจง่าย อารมณ์แปรปรวน ขาดสมาธิ ความจำแย่ลง บางรายอาจ มีประสาทหลอนร่วมด้วย ถ้ามีอาการเกิดขึ้นภายหลังเผชิญเหตุการณ์ภายใน 4 สัปดาห์ และมีอาการอยู่ไม่เกิน 1 เดือน แล้วทุเลาไปเอง เรียกว่า “Acute stress disorder” ซึ่งเป็นภาวะที่เป็นเพียงชั่วคราว แต่ถ้ามีอาการเรื้อรังนานเกิน 1 เดือน เรียกว่า “Post- traumatic stress disorder” ซึ่งอาจเกิดอาการภายหลังเหตุการณ์ 1 สัปดาห์ หรือหลายปีต่อมา อาการมักเรื้อรังหรือเป็น ๆ หาย ๆ เมื่อถูกกระตุ้นให้คิดถึงเหตุการณ์นั้น ๆ ผู้ป่วยมักจะมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการเห็นหรือคิดถึงเหตุการณ์นั้น ๆ การรักษาเช่นเดียวกับโรคกลัว

6. โรควิตกกังวลจากการพลัดพรากจากพ่อแม่หรือคนรัก มักพบกับเด็กอายุ 7-8 ปี ที่ต้องแยกจากพ่อแม่คนที่รักและผูกพันหรือคิดไปล่วงหน้าถึงเรื่องนี้ ทำให้เกิดภาวะวิตกกังวลอย่างรุนแรง ขัดขวางพัฒนาการของเด็กในการเรียนรู้ การเข้าสังคม หน้าที่การงาน ผู้ป่วยจะมีอาการกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อพ่อแม่ (เช่น อุบัติเหตุ ถูกทำร้าย ถูกลักพาตัวไป) และไม่ยอมแยกจากพ่อแม่เวลาเข้านอนหรือไปโรงเรียน อาจมีอาการฝันร้ายเกี่ยวกับการพลัดพราก เมื่อต้องแยกจากพ่อแม่หรือคิดไปล่วงหน้าว่าจะต้องแยกจากกัน เด็กอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง เด็กทีเป็นโรคนี้อาจมีโรควิตกกังวลชนิดอื่น (เช่น โรคกลัว) ร่วมด้วย การรักษาเช่นเดียวกับโรคกลัว

7. โรควิตกกังวลจากโรคทางกาย เช่น ศีรษะได้รับบาดเจ็บ โรคติดเชื้อของสมอง เนื้องอกสมอง โรคของหูชั้นใน โรคหัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกิน ภาวะโลหิตจาง เป็นต้น

8. โรควิตกกังวลจากแอลกอฮอล์ สารเสพติด และยา (เช่น กาเฟอีน แอมเฟตามีน โคเคน เอฟีดรีน ทีโอฟิลลีน ยาลดน้ำหนักบางชนิด ยาแก้ซึมเศร้าบางชนิด) และจากการ ถอนยากล่อมประสาท

9. โรควิตกกังวลจากความเครียดหรือปัญหาชีวิต เช่น ปัญหาครอบครัว การหย่าร้าง ปัญหาการเงิน ภาวะหนี้สิน ปัญหาการทำงาน หรือความสัมพันธ์กับผู้อื่น ปัญหาสุขภาพหรือการเจ็บป่วย เป็นต้น อาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวล ซึ่งจะทุเลาเมื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ การรักษา ควรค้นหาสาเหตุและแก้ไข อาจให้ยากล่อมประสาทควบคุมอาการ

สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวกับปัจจัยด้านชีวภาพร่วมกับปัจจัยด้านจิตใจและสังคม

ปัจจัยทางชีวภาพ เชื่อว่าเกี่ยวกับความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ที่เรียกว่า สารส่งผ่านประสาท (neurotran smitters) หลายชนิด เช่น ซีโรโทนิน กรดแกมมาอ ะมิโนบูไทริก (gamma-aminobutyric acid/GABA) นอกจากนี้ยังเชื่อว่า อาจเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ซึ่งจะพบว่าเด็กที่มีพ่อแม่เป็นโรคนี้ มีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าเด็กทั่วไป

ปัจจัยด้านจิตใจและสังคม เช่น การเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่มีการคาดหวังในความสำเร็จของลูกสูง การมีพ่อแม่เป็นโรควิตกกังวล บุคลิกภาพของผู้ป่วยที่มองโลกในแง่ร้ายและประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาของตนเองต่ำเกินจริง การเผชิญกับความเครียดหรือเหตุการณ์ร้ายแรง เป็นต้น

อาการ

ที่สำคัญ คือ ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกวิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุอยู่เกือบตลอดเวลาแทบทุกวัน ติดต่อกันนานเกิน 6 เดือน โดยวิตกกังวลในปัญหาและเหตุการณ์ทั่ว ๆ ไปในชีวิตประจำวันพร้อมกันหลายเรื่องอย่างไร้เหตุผล และยากที่จะควบคุมไม่ให้กังวล เช่น กลัวสามีถูกทำร้าย ห่วงเรื่องการเรียนของลูก กลัวคนในบ้านจะได้รับอุบัติเหตุ กลัวว่าตนเองจะเจ็บป่วย กลัวว่าจะทำงานได้ไม่ดี เป็นต้น ผู้ป่วยจะไม่มีปัญหาร้ายแรงที่ทำให้คิดมากอันใดอันหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ผู้ป่วยมักมีอาการนอนหลับยาก หรือนอนกระสับกระส่ายไม่เต็มที่ อาจรู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยล้าง่าย อยู่ไม่สุข ตื่นเต้น หงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิ รู้สึกสมองว่างเปล่า คิดไม่ออก กล้ามเนื้อตึงเครียด (ทำให้ปวดศีรษะ ปวดกระบอก ตา เจ็บหน้าอก ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัว) มีอาการมือเท้าสั่น หรือสั่นทั้งตัว บางคนอาจมีอาการใจสั่น หายใจไม่อิ่ม รู้สึกมีก้อนจุกคอ เหงื่อออกง่าย มือเย็น ท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้ ท้องเดิน ปากแห้ง เวียนศีรษะ ร่วมด้วย

อาการมักเป็น ๆ หาย ๆ และจะรุนแรงในช่วงที่มีความเครียด

ภาวะแทรกซ้อน

ภาวะวิตกกังวลเรื้อรัง อาจทำให้ความสามารถในการเรียน การทำงาน ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง

ผู้ป่วยอาจมีโรคทางจิตประสาทอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น โรคแพนิก โรคกลัว โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคซึมเศร้า ซึ่งเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย

ผู้ป่วยยังเสี่ยงต่อการติดแอลกอฮอล์ ติดยา หรือสารเสพติด

บางรายอาจ มีโรคทางกายแทรกซ้อน เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง โรคลำไส้แปรปรวน เป็นต้น

นอกจากนี้ ความเครียดอาจมีผลต่อภูมิคุ้มกันและการเกิดโรคทางกายต่าง ๆ ได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการเป็นหลัก

การตรวจร่างกายมักไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

บางรายอาจ พบอาการมือเย็น เหงื่อออก กล้ามเนื้อตึงเครียด มือสั่น ชีพจรเต้นเร็ว

เกณฑ์การวินิจฉัยโรคกังวลทั่วไป

1. มีความรู้สึกวิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุต่อหลาย ๆ เรื่อง (เช่น การเรียน การงาน ครอบครัว สุขภาพ เป็นต้น)

 2. ผู้ป่วยรู้สึกยากที่จะควบคุมไม่ให้กังวล

 3. มีอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 3 ใน 6 ข้อ (สำหรับเด็กมีเพียง 1 ใน 6 ข้อ)

    กระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข หรือรู้สึกตื่นเต้น
    รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนล้าง่าย
    ไม่มีสมาธิ หรือรู้สึกสมองว่างเปล่าคิดไม่ออก
    หงุดหงิด
    กล้ามเนื้อตึงเครียด (เช่น ปวดศีรษะ ปวดคอ เจ็บหน้าอก ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว)
    มีปัญหาการนอน (เช่น หลับยาก หรือนอนกระสับกระส่าย)

4. อาการทั้งหมดเป็นอยู่บ่อย ๆ นานกว่า 6 เดือน

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยยากล่อมประสาท โดยให้ต่อเนื่องนาน 6-12 เดือน จะช่วยลดอาการวิตกกังวลและอาการต่าง ๆ ได้ดี

ถ้ามีอาการใจสั่น มือสั่น แพทย์จะให้โพรพราโนลอล แต่ต้องระวังผลข้างเคียง คือ อาการซึมเศร้า ชีพจรเต้นช้า คลื่นไส้

ถ้ามีภาวะซึมเศร้าหรือโรคแพนิกร่วมด้วยก็ให้การรักษาแบบโรคซึมเศร้า หรือโรคแพนิก

ผลการรักษา มักจะได้ผลดี แต่ต้องกินยาต่อเนื่องอย่างน้อย 6-12 เดือน หรือนานกว่านั้น หลังหยุดยาประมาณร้อยละ 60-80 มีโอกาสกำเริบได้อีก

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีความรู้สึกวิตกกังวล  นอนหลับยาก  รู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยล้าง่าย อยู่ไม่สุข ตื่นเต้น หงุดหงิดง่าย หรือ ขาดสมาธิ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรควิตกกังวล ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์  และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน  ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา ( เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน  หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

สำหรับโรคกังวลทั่วไป ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

หากมีอาการ ควรปรึกษาแพทย์และติดตามรักษากับแพทย์เพื่อควบคุมอาการ และอาจป้องกันไม่ให้มีอาการกำเริบมากด้วยการงดการบริโภคสุรา ยาสูบ สารกาเฟอีน (ชา กาแฟ)

ข้อแนะนำ

1. เมื่อพบผู้ป่วยมีภาวะวิตกกังวล แพทย์จะทำการซักถามประวัติและตรวจดูอาการอย่างละเอียด เพื่อแยกแยะสาเหตุ บางครั้งอาจเกิดจากโรคทางกาย แอลกอฮอล์ สารเสพติด ยา ความเครียดหรือปัญหาชีวิต หรืออาจมีโรคจิตประสาทอื่น ๆ (เช่น โรคซึมเศร้า โรคแพนิก โรคกลัว โรคย้ำคิดย้ำทำ) ร่วมด้วย ซึ่งมีวิธีการดูแลรักษาแตกต่างกันไป

2. โรคกังวลทั่วไป มักเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ซึ่งแพทย์จะให้ยารักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 6-12 เดือน และแนะนำผู้ป่วย ดังนี้

    ให้ความมั่นใจแก่ผู้ป่วยว่า โรคนี้ไม่มีอันตรายร้ายแรง สามารถควบ คุมอาการด้วยยาที่ใช้รักษาจนสามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติสุขได้ และควรให้กำลังใจว่าโรคนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ป่วย แต่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง
    พบแพทย์เป็นประจำตามนัด และกินยาอย่างต่อเนื่อง อย่าปรับยาหรือหยุดยาเอง
    ดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ และผ่อนคลายความเครียดด้วยการทำสมาธิ ฝึกโยคะ
    หลีกเลี่ยงการเสพแอลกอฮอล์ สารเสพติด สารกระตุ้น กาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลงได้
    เมื่อมีภาวะเครียด ควรหาทางพูดคุยระบายกับญาติหรือเพื่อนสนิท

14
การขายอาหารออนไลน์อาชีพเสริม ขายอาหารออนไลน์ อาหารทำง่ายขายคล่อง กำไรงาม

การขายอาหารออนไลน์เป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง สามารถทำได้จากที่บ้าน และมีต้นทุนเริ่มต้นไม่สูงนัก หากคุณกำลังมองหาอาชีพเสริมที่ทำง่าย ขายคล่องและมีกำไรงาม การขายอาหารออนไลน์อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการเติบโตของแอพจัดส่งอาหารและโซเชียลมีเดีย ทำให้การเริ่มธุรกิจอาหารออนไลน์กลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย

การขายอาหารออนไลน์กลายเป็นธุรกิจเสริมยอดนิยมสำหรับผู้ประกอบการจำนวนมากที่ต้องการหารายได้พิเศษ ด้วยการเติบโตของแอพจัดส่งอาหารและโซเชียลมีเดีย ทำให้การเริ่มธุรกิจอาหารออนไลน์กลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย หากคุณหลงใหลในการทำอาหารและต้องการเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ นี่คือวิธีเริ่มต้นทำอาหารจานง่าย ขายเร็ว และทำกำไรสูง

1. การเลือกอาหารที่เหมาะสมในการขาย
การเลือกประเภทอาหารให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จ อาหารที่ขายดีที่สุด ได้แก่:
เตรียมง่าย – สูตรอาหารที่เรียบง่ายช่วยประหยัดเวลาและความพยายาม
จัดส่งรวดเร็ว – อาหารที่คงความสดและไม่จำเป็นต้องบรรจุภัณฑ์ที่ซับซ้อน
เมนูยอดนิยมและเป็นที่ต้องการ – อาหารที่ผู้คนชื่นชอบและสั่งบ่อยๆ
อัตรากำไรสูง – ส่วนผสมต่างๆ ควรมีราคาไม่แพงและยังให้กำไรดีอีกด้วย

ไอเดียอาหารขายดีบนออนไลน์
กล่องเบนโตะทำเอง – มื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพและสะดวกสบายสำหรับพนักงานออฟฟิศ
ของว่างทอด – สินค้าอย่างไก่ทอด ปอเปี๊ยะทอด และเทมปุระ มักขายดี
ข้าวหน้าต่างๆ และก๋วยเตี๋ยว – มื้อด่วนที่อิ่มอร่อย
ขนมหวานและเบเกอรี่ – เค้ก คุกกี้ และขนมไทย ดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก
เครื่องดื่ม – ชาไข่มุก น้ำผลไม้สด และกาแฟ เป็นที่ต้องการอยู่เสมอ

2. การจัดตั้งธุรกิจอาหารออนไลน์ของคุณ
เมื่อคุณตัดสินใจว่าจะขายอะไร ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
สร้างการปรากฏตัวออนไลน์
โซเชียลมีเดีย – ใช้ Facebook, Instagram และ TikTok เพื่อแสดงอาหารของคุณ
แอปส่งอาหาร – ลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มเช่น GrabFood, Uber Eats หรือ Foodpanda
เว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ – เว็บไซต์ที่เรียบง่ายสามารถทำให้การสั่งซื้อสะดวกยิ่งขึ้น

กลยุทธ์ด้านราคา
คำนวณต้นทุนอาหาร ค่าบรรจุภัณฑ์ และค่าจัดส่ง
กำหนดราคาที่มีการแข่งขันในขณะที่ยังคงรักษาอัตรากำไรที่ดี
เสนอโปรโมชั่น เช่น ส่วนลดหรือการจัดส่งฟรีให้กับลูกค้าใหม่
บรรจุภัณฑ์อาหารที่มีประสิทธิภาพ
ใช้ภาชนะที่แข็งแรงและป้องกันการหกได้เพื่อรักษาความสดของอาหาร
พิจารณาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อดึงดูดผู้ซื้อที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

3. การตลาดและการเติบโตของธุรกิจของคุณ
ภาพถ่ายคุณภาพสูง – รูปภาพที่น่าดึงดูดจะช่วยกระตุ้นให้ขายได้มากขึ้น
มีส่วนร่วมกับลูกค้า – ตอบกลับข้อความและรับฟังคำติชมอย่างจริงจัง
โปรแกรมความภักดี – เสนอส่วนลดให้กับลูกค้าประจำ
ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล – บล็อกเกอร์ด้านอาหารสามารถช่วยโปรโมตธุรกิจของคุณได้

4. การจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่ง
ใช้แอปส่งอาหารเพื่อการขนส่งที่ไม่ยุ่งยาก
มีคนส่งของโดยเฉพาะสำหรับคำสั่งซื้อในพื้นที่
กำหนดเวลาการจัดส่งที่เฉพาะเจาะจงเพื่อจัดการกับความคาดหวังของลูกค้า

5. การขยายธุรกิจของคุณ
เมื่อธุรกิจอาหารออนไลน์ของคุณได้รับความนิยมแล้ว ควรพิจารณาขยายธุรกิจโดย:
เพิ่มรายการเมนูใหม่ตามความต้องการของลูกค้า
การเป็นพันธมิตรกับร้านกาแฟหรือร้านอาหารในท้องถิ่น
ให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่สำหรับงานอีเว้นท์และการประชุมสำนักงาน

การขายอาหารออนไลน์เป็นธุรกิจเสริมเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้พิเศษในขณะที่ทำสิ่งที่คุณรัก ด้วยการเลือกอาหารที่เหมาะสม ตั้งระบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ และใช้กลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาด คุณสามารถเปลี่ยนความหลงใหลในการทำอาหารให้กลายเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ สร้างแบรนด์ของคุณ และเฝ้าดูธุรกิจอาหารของคุณเติบโต

15
รถขนของไปต่างจังหวัด รถรับจ้างขนของจังหวัดสงขลา รถรับจ้างทั่วไป สะดวกบริการดี

รถรับจ้างจังหวัดสงขลา ราคาที่ถูกและคุณภาพ ผู้นำด้านงานบริการ รถรับจ้าง ขนย้ายของทั่วไป ย้ายบ้าน ย้ายหอ รับจ้างขนของ รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล่้อรับจ้าง และ รถขนของจังหวัดสงขลา เราขอเรียนแจ้งว่าในช่วงตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือได้ว่า ภาคใต้ประสบกับปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม อย่างหนักหลายจังหวัดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดระนอง กระบี่ ชุมพร ตรัง ยะลา ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี นราธิวาส และ จังหวัดสงขลา ชื่อจังหวัดที่ได้กล่าวมานี้ ได้มีพื้นที่เกือบทั้งจังหวัดน้ำท่วมหนักและสูงมาก ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขนย้าย

การคมนาคมขนส่ง เป็นไปอย่างทุลักทุเล และบางเส้นทางถูกตัดขาดไม่สามารถที่จะเดินทางได้ จนถึงทุกวันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย น้ำลดลงอย่างมากซึ่งเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูพื้นที่ในจังหวัดต่างๆของภาคใต้ ทั้งทางหน่วยงานการทหาร การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ช่วยกันทั้งกำลัง และทรัพยากรปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือ ในพื้นที่จังหวัดดังกล่าวเพื่อต้องการให้กลับมาสู่ในสภาวะปกติอย่างเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบ้านเรือน สถานที่ราชการสถานที่อำนวยสาธารณประโยชน์ สาธารณูปโภค รวมไปจนถึงถนนเส้นทางการเดินรถ การคมนาคมขนส่ง ให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา มีลูกค้าที่โทรเข้ามาสอบถาม งานบริการ รถรับจ้างขนของ ของเราในจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ที่โดนปัญหาเรื่องน้ำท่วม ทางเราต้องขออภัยที่บางเส้นทางไม่สามารถที่จะเข้าไปให้บริการกับท่านได้เนื่องจากมีน้ำท่วมสูง

แต่ขณะนี้หลังจากน้ำลด ในหลายหลายเส้นทางเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เราได้ให้ บริการรถรับจ้างขนของ ในจังหวัดต่างๆ ขึ้นมาตั้งแต่จังหวัดสงขลาทั้ง รถกระบะรับจ้างจังหวัดสงขลา รถ 6 ล้อรับจ้างจังหวัดสงขลา ให้บริการทั้งแบบคอกสูงและแบบตู้ทึบ  รถสิบล้อรับจ้างจังหวัดสงขลา รถเทรลเลอร์รับจ้างจังหวัดสงขลา และ รถรับจ้างขนของทั่วไป จังหวัดสงขลา เราพร้อมให้บริการรับจ้างขนของทั่วทุกพื้นที่แล้ว ต้องบอกเลยว่าช่วงนี้งานรับจ้าง ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของ มีปริมาณมาก เนื่องจากสินค้าของลูกค้าบางรายโดนน้ำท่วม บางคนต้องการที่จะย้ายของออกจากพื้นที่ไปยังบ้านใหม่ บางท่านต้องการขนส่งวัตถุดิบทางการเกษตร ขึ้นมาส่งยางภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ในช่วงนี้เราจะคิดค่าบริการ  รถรับจ้าง ที่ราคาถูกเป็นพิเศษ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และไม่ให้เป็นการซ้ำเติม กับลูกค้า หากลูกค้าท่านใดต้องการที่จะขนย้ายของขนย้ายบ้าน สามารถติดต่อเข้ามาที่เราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

จุดบริการ รถรับจ้างจังหวัดสงขลา ตอนนี้รอให้บริการรับจ้างในทุกๆเขตอำเภอ โดยรถบริการรับจ้างทุกชนิดทุกรูปแบบขนย้ายทุกอย่าง โดย รถกระบะรับจ้างสงขลา รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง พร้อมด้วยพนักงานยกสินค้า จุดจอดบริการ ณ ตอนนี้ มีได้แก่

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ เมืองสงขลา

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ กระแสสินธุ์

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ ควนเนียง

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ จะนะ

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ เทพา

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ นาทวี

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ นาหม่อม

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ บางกล่ำ

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ ระโนด

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ รัตภูมิ

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ สทิงพระ

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ สะเดา

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ สะบ้าย้อย

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ สิงหนคร

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ หาดใหญ่

รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ คลองหอยโข่ง

ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างจังหวัดสงขลา ของเรา เรารู้สึกยินดีและซาบซึ้งใจมาก ที่ท่านให้โอกาสเรา พนักงานขนส่งทุกคน ขอสัญญาว่า และดูแลสินค้าของท่านให้ดีที่สุดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และ จะ รับใช้ลูกค้าทุกท่านให้ดีที่สุด และเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ อย่าลืมนะครับ หากต้องการ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของสินค้าทุกชนิด โทรมาหาเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้างรถรับจ้างทั่วไปในจังหวัดสงขลา พร้อมให้บริการทำทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงขอบคุณค่ะ

หน้า: [1] 2 3 ... 33